ตามที่รัฐบาลได้กำหนดวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์เพิ่มเติมเป็นวันที่ 4-7 กันยายน 2563 การคิดและทำแบบนี้เป็นการคิดแบบข้าราชการที่เอาแต่ได้
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ให้ความเห็นต่อการหยุดชดเชยวันสงกรานต์ในระหว่างวันที่ 4-7 กันยายน 2563 ว่า อันที่จริงไม่ควรหยุด เราควรเร่งทำงานเพื่อชาติจะดีกว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ในกรณีข้าราชการก็หยุดไปเป็นอันมากแล้วจากมาตรการ Social Distancing ส่วนภาคเอกชนหลายส่วนก็เช่นกัน นอกจากนี้การหยุดชดเชยในช่วงนี้ อาจทำให้เป็นการหยุดโดยไม่ได้รับค่าจ้างโดยเฉพาะกรณีลูกจ้างรายวัน ทำให้ยิ่งเสียรายได้ ทำให้เศรษฐกิจของประชาชนเสียหาย เชื่อว่าบริษัทเอกชนส่วนใหญ่คงไม่ขานรับ ไม่หยุดตามแน่นอน
การคิดหาวันหยุดแบบนี้ เป็นการคิดแบบข้าราชการที่เอาแต่ได้ เห็นแต่ตัว ไม่ใช่แบบข้าราชการที่มุ่งรับใช้ประชาชน แต่เป็นข้าราชการที่มุ่งจะเอาสิทธิ์ของตนเอง เพื่อตนเองเป็นสำคัญ จะเห็นได้ว่าในอุดมคติ “พ่อหลวง” ทำงานไม่มีวันหยุด เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนไทย ส่วนความคิดแบบข้าราชการที่มุ่งแต่วันหยุดแบบนี้ ไม่ได้ทำตามแนวทางของพ่อหลวงเลย นับเป็นสิ่งที่สวนทางกับแนวทางของ “พ่อหลวง” เป็นอย่างมาก
มีตัวอย่างดีๆ ที่รัฐบาลในยุคนี้ควรพิจารณา เช่น ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่แซงหน้าไทยไปแล้วคือเกาหลีใต้ ข้าราชการเกาหลีใต้ทำงานในวันหยุดคือวันเสาร์ครึ่งวันด้วย ส่วนวันจันทร์ถึงศุกร์ก็ทำเต็มเวลา ในสมัยรัฐบาลทักษิณยังสั่งให้ข้าราชการสลับหมุนเวียนมาทำงานช่วงพักเที่ยง และวันหยุดราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาติดต่อ แต่ในยุคปัจจุบันที่ข้าราชการได้รับการดูแลมากกว่าประชาชน กลับกลายเป็นว่าข้าราชการได้สิทธิพิเศษมากมาย
แม้แต่การให้มีการ “เที่ยวปันสุข” ผู้ที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ ก็คือข้าราชการที่เงินไม่เคยขาดมือ รับเงินเดือนทุกเดือน แล้วยังสามารถไปเที่ยว คนจนจะมีปัญญาอะไรไปเที่ยวมากมายเช่นเดียวกับข้าราชการ กรณีนี้แทนที่จะเอาเงินไปช่วยคนยากจน กลับไปแจกคนที่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเสียอีก ถือได้ว่ายิ่งเป็นการทับถมคนจนให้จนยิ่งขึ้นอีกต่างหาก อันที่จริงในยามยาก ควรลดเงินเดือนข้าราชการ ควรลดจำนวนข้าราชการ ใครไม่พอใจก็ลาออกไป มีคนอยากทำราชการเพื่อชาติมากมาย จะได้ลุเก่ารับใหม่