20 อันดับสินค้าที่อยู่อาศัยที่ขายดี
  AREA แถลง ฉบับที่ 63/2560: วันพฤหัสบดีที่ 02 กุมภาพันธ์ 2560

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ในรอบปี 2559 ที่ผ่านมา เพียงแค่ครึ่งปีหลัง ก็มีประเภทโครงการที่อยู่อาศัยที่ขายดีเพราะราคาขายเพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด ประมาณ 6%-10% ซึ่งหากเป็นทั้งปี ราคาคงเพิ่มขึ้นมากว่า 12%-20% เลยทีเดียว  สินค้าเหล่านี้มีที่ไหนบ้าง นักลงทุน ผู้ซื้อบ้าน ควรทราบเป็นอย่างยิ่ง

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) จัดอันดับทำเล ประเภทบ้านและระดับราคาที่น่าสนใจที่สุดในการลงทุนเพราะราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากไว้ 20 อันดับดังต่อไปนี้:

            อันดับที่ 1 บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล E2: นิมิตใหม่ มีจำนวน 365 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 3.698 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 4.077 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 10.3% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 2 บ้านเดี่ยว ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท ในทำเล M4: นครไชยศรี มีจำนวน 64 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 2.744 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 2.989 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.9% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 3 ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ในทำเล H6: ปากน้ำ มีจำนวน 474 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 1.636 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 1.780 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.8% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 4 ห้องชุด ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ในทำเล M4: นครไชยศรี มีจำนวน 150 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 1.651 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 1.790 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.4% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 5 ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล H6: ปูเจ้าฯ - เทพารักษ์ มีจำนวน 85 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 3.590 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 3.890 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.4% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 6 บ้านเดี่ยว ระดับราคา >20.000 ล้านบาท ในทำเล F4: ลาดพร้าว 91 - บางกะปิ มีจำนวน 57 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 22.282 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 24.077 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.1% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 7 บ้านแฝด ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล E3: หนองจอก มีจำนวน 244 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 2.823 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 3.050 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 8.0% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 8 บ้านเดี่ยว ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท ในทำเล E3: กาญจนาภิเษก-เพชรเกษม มีจำนวน 348 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 7.994 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 8.625 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.9% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 9 ห้องชุด ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท ในทำเล I3: สุขุมวิท-พระรามที่ 4 มีจำนวน 507 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 2.111 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 2.276 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.8% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 10 ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล M2: กาญจนาภิเษก-บางแวก มีจำนวน 189 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 3.758 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 4.044 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.6% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 11 บ้านแฝด ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ในทำเล A5: รังสิต คลอง 7 (ตะวันออก) - คลอง 16 มีจำนวน 654 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 1.615 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 1.736 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.5% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 12 บ้านแฝด ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล K3: มหาชัย-เศรษฐกิจ มีจำนวน 108 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 3.068 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 3.294 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.4% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 13 ห้องชุด ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ในทำเล G2: พัฒนาการ มีจำนวน 2627 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 1.337 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 1.436 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.4% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 14 ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท ในทำเล H3: ศรีนครินทร์ (แมคโคร) มีจำนวน 1419 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 1.703 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 1.821 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 7.0% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 15 บ้านเดี่ยว ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท ในทำเล J2: ประชาอุทิศ มีจำนวน 542 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 7.195 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 7.688 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.9% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 16 ตึกแถว ระดับราคา 10.001-20.000 ล้านบาท ในทำเล I4: ยานนาวา-สีลม มีจำนวน 77 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 14.847 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 15.856 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.8% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 17 ทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท ในทำเล C3: พิบูลสงคราม มีจำนวน 125 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 5.990 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 6.390 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.7% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 18 ตึกแถว ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท ในทำเล E2: นิมิตใหม่ มีจำนวน 12 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 4.690 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 5.000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.6% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 19 ห้องชุด ระดับราคา 0.500-1.000 ล้านบาท ในทำเล E5: ฉลองกรุง มีจำนวน 550 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 0.924 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 0.985 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.6% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            อันดับที่ 20 บ้านแฝด ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท ในทำเล E2: นิมิตใหม่ มีจำนวน 206 หน่วย มีราคาขาย ณ เดือนมิถุนายน 2559 หน่วยละ 2.220 ล้านบาท เพิ่มเป็นหน่วยละ 2.363 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 6.5% ในระยะเวลาเพียงครึ่งปีหลังของปี 2559

            สำหรับการปรับใช้เป็นดังนี้:

            1. ในการพัฒนาที่ดิน หากจะพัฒนาที่ดินตามทำเล ประเภทและระดับราคานี้ น่าจะถือเป็นสินค้าที่ดีที่มีผู้สนใจซื้อจริง เพราะราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

            2. ในการอำนวยสินเชื่อของสถาบันการเงิน หากสินค้าที่มาขออำนวยสินเชื่อ เข้ากลุ่ม 20 กลุ่มนี้ น่าจะเป็นสินค้าที่น่าอำนวยสินเชื่อ

            3. ในการซื้อขายสินค้าของนักลงทุน นายหน้า และในการประเมินค่าทรัพย์สิน ก็แสดงให้เห็นว่าสินค้ากลุ่่มนี้มีอนาคตที่ดี ราคาไม่น่าจะตก น่าสนใจที่จะลงทุนนั่นเอง

            การลงทุนต้องอาศัยข้อมูลที่ดี จึงจะประสบความสำเร็จ


(ที่มา: http://angelicapinto.com/2016/09/importance-of-location-location-location)

อ่าน 3,915 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved