หวย: ทักกี้ช่วย/ตู่ทำร้ายคนจน?
  AREA แถลง ฉบับที่ 238/2561: วันพุธที่ 25 เมษายน 2561

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ปัญหาขายล็อตเตอรี่เกินราคานั้น แก้อย่างไรดี รัฐบาลเสนอให้เพิ่มโทษ ตู้ขายหวย หวยออนไลน์ ฯลฯ ทางออกเหล่านี้ทำลายคนจน ต่างจากยุคทักกี้ที่ส่งเสริมคนจนให้มีงานทำนับแสนคนด้วยการทำหวยบนดิน และยังไม่เกิดปัญหาเสพติดการพนันอีกด้วย

            มีคนบอกว่า "แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาดีที่สุด คือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น ตู้ขายสลาก หรือสลากออนไลน์ เพราะคุมราคาได้ง่าย และมีความเสี่ยงน้อยที่สุด จะขายชุดกี่ใบก็ได้" (https://bit.ly/2JnDg85) แนวทางที่รัฐบาลดำเนินการได้แก่:

            1. ส่วนลดซึ่งถือเป็นรายได้ของตัวแทนรายย่อย 12% จากกฎหมายเดิมที่จะมีส่วนลดอยู่ 7% ทำให้ตัวแทนรายย่อยได้รับกำไรเพิ่ม

            2. เพิ่มบทกำหนดโทษสำหรับผู้ที่จำหน่ายสลากเกินราคา ให้มีโทษจำคุกไม่เกิน 1เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท จากเดิมกำหนดโทษปรับอย่างเดียวไม่เกิน 2,000 บาท

            3. อาจจะ (ขาย) อยู่ในรูปสลากสมทบ หรือล็อตโต ขายออนไลน์ผ่านเครื่อง (https://bit.ly/2Hqyvyk)

            4. ทำหวยชุดขาย ราคาเท่ากับหวยใบเดียว ดัดหลังพวกคนขายลอตเตอรี่เกินราคา (https://bit.ly/2HouVog)

            มาตรการข้างต้นไม่ใช่ของใหม่ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2558 รัฐบาลประยุทธ์ก็เคยมีคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 11/2558. . .ผู้ใดเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนดต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่ผู้บัญชาการทหารบกหรือแม่ทัพภาคมอบหมายมีอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสำนักงานสลากฯ (https://bit.ly/2GC4bj3) แต่ก็ไม่ได้ผลอะไร มีการขายตามราคาเฉพาะช่วงแรกเท่านั้น

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ให้ข้อคิดว่ารัฐบาลควรทำ "หวยบนดิน" แบบรัฐบาลทักษิณ จะดีกว่า มาตรการของรัฐบาลข้างต้นนั้น เป็นการสร้างปัญหามากกว่าการแก้ปัญหา การทำตู้ขายหวย ทำให้ผู้ประกอบอาชีพขายหวยลดลงทั้งที่พวกเขาส่วนมากเป็นคนยากจนลดลง การตรวจจับต่างๆ ก็ไม่ได้เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ เพราะคนขายก็รับมาในราคาต้นทุนที่ 95 บาทอยู่แล้ว จะขาย 80 บาทได้อย่างไร

            หวยบนดินที่ว่าควรนำมาปัดฝุ่นใหม่ ก็คือ "สลากเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัว หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า หวยบนดิน เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ริเริ่ม มีจุดประสงค์เพื่อนำ หวยใต้ดิน ซึ่งผิดกฎหมาย มาผ่านกระบวนการทางกฎหมายและปรับปรุงให้เป็นของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการกวาดล้างเจ้ามือหวยใต้ดิน และนำรายได้ไปสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ โครงการสำคัญที่นำรายได้จากหวยบนดินไปใช้ คือ โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS)" (https://goo.gl/9k4svW)

            ประเภทของสลาก แบ่งเป็น

            1. สลากชนิดราคา 20 บาท พิมพ์ด้วยสีเขียวเหมือนสีของธนบัตร 20 บาท

            2. สลากชนิดราคา 50 บาท พิมพ์ด้วยสีฟ้าเหมือนสีของธนบัตร 50 บาท

            3. สลากชนิดราคา 100 บาท พิมพ์ด้วยสีแดงเหมือนสีของธนบัตร 100 บาท

            ส่วนรางวัลของสลากแบ่งออกเป็น 3 ตัวตรง, 3 ตัวโต๊ด, 2 ตัวบน, 2 ตัวล่าง ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขใดก็ได้กรอกลงในช่อง อีกทั้งยังมีการกรอกชื่อผู้ขาย ส่วนการออกรางวัลนั้นอ้างอิงหมายเลขรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลตั้งแต่งวด 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546 จนถึงงวด 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 80 งวด คิดเป็นจำนวนเงิน 1.34 แสนล้านบาท เป็นกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว 2.95 หมื่นล้านบาท (https://goo.gl/9k4svW)

            อย่างไรก็ตาม "หลังจากเกิดรัฐประหาร พ.ศ. 2549 การออกหวยบนดินต้องสิ้นสุดลง ด้วยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ สั่งยกเลิกนโยบายหวยบนดิน และเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า การออกหวยบนดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 มาตรา 4 และมาตรา 13 ให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 มาตรา 23 และมาตรา 27 แก่คณะรัฐมนตรีชุด พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะกรรมการสลากฯ ในสมัยนั้น รวม 47 คน" (https://goo.gl/9k4svW)

            การมี "หวยบนดิน" มีข้อดีคือ "ในช่วงปี 2547-2550 ยังมีรายได้จากการขายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือ “หวยบนดิน” มาเสริม ทำให้ยอดขายสลากทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว สำนักงานสลากฯ เริ่มออกรางวัลสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ครั้งแรกในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2546 ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก ในปีงบประมาณ 2546 สำนักงานสลากฯ มีรายได้รวม 36,692 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2547 มีรายได้รวม 76,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน 108% ปี 2548 รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 82,718 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2549 มีรายได้รวม 92,764 ล้านบาท" (https://goo.gl/VRNDSc)

            ยิ่งกว่านั้นหวยบนดินยังทำให้ประชากรมีงานทำ "แน่นอนว่า การจะให้ยกเลิกหวยบนดินให้หมดไปเลยทีเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะจะทำให้คนขายหวยบนดินและคนเดินโพยกว่า 4 แสนคนต้องตกงานและขาดรายได้ อีกทั้งยังทำให้หวยใต้ดินกลับมาแพร่หลายอีกด้วย!!" (https://goo.gl/RG8jdp)  จะเห็นได้ว่าการมีคนทำงานเพิ่มขึ้นถึง 4 แสนคนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าการแจกเงินของรัฐบาลที่ทำอยู่ทุกวันนี้

            โดยสรุปแล้ว "หวยบนดิน" มีประโยชน์ที่

            1. หารายได้เข้ารัฐได้เป็นกอบเป็นกำ

            2. ทำให้มีงานทำ 4 แสนคน

            3. เป็นการล้างอาชญากรรมและผู้มีอิทธิพล

            4. ไม่เป็นการส่งเสริมให้เล่นการพนันเพิ่ม ดูได้จากในช่วงที่มี "หวยบนดิน" ก็ไม่ได้ทำให้ประชากรติด "หวย" งอมแงมแต่อย่างใด

            5. ราคาสลากกินแบ่งก็จะไม่มีการขายเกินราคา เพราะหากขายเกินราคา ประชาชนก็หันไปซื้อหวยบนดินแทน ทำให้สลากกินแบ่งราคาปกติโดยไม่ต้องเสียงบประมาณไปปราบปราม และไม่เกิดช่องทางทุจริตอีกด้วย

            รัฐบาลจึงควรเลียนแบบรัฐบาลทักษิณ ภาษิตฝรั่งมีทำนองว่า ถ้ารบเอาชนะเขาไม่ได้ ก็เอาเขามาเป็นพวก จะดีกว่าที่จะเป็นศัตรูกัน เป็นการสร้างความปรองดองแก่ชาติ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่านี้

            หวยบนดิน ช่วยชาติ ช่วยคนให้มีงานทำโดยไม่ทำให้คนเล่นหวยเพิ่ม แถมยังแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลขายเกินราคาได้โดยไม่ต้องปราบปราม ไม่เปิดข่องให้มีทุจริตอีกด้วย

โปรดดูคลิปนี้: https://www.facebook.com/dr.sopon4/videos/1567117366734177

 

 


ที่มาของรูปภาพ: https://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZPD1uhitD5jd6GPlVvO4oK5pTzy2Qm.jpg

อ่าน 3,980 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved