จากการลงสำรวจภาคสนามต่อเนื่องของ ศูนย์ข้อมูล วิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ AREA ของ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า ในปี 2550 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่ทั้งหมด 330 โครงการ จำนวน 71,366 หน่วย รวมมูลค่า 175,722 ล้านบาท ทั้งนี้ได้แก่ที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล อสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรมและรีสอร์ทในเขตอื่น ๆ
ตัวเลขดังกล่าวนี้แสดงว่า จำนวนโครงการต่าง ๆ ที่เปิดลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 7% (11 เดือนแรกของปีที่แล้วเกิด 354 โครงการ) มูลค่าของโครงการก็ลดลงเหลือเพียง 11% ของ 11 เดือนแรกของปีที่แล้ว (196,435 ล้านบาท) แสดงให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์กำลังหดตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามจำนวนหน่วยของอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่กลับเพิ่มขึ้นถึง 9% เพราะเมื่อปีที่แล้วในช่วง 11 เดือนแรก เกิดเพิ่มเพียง 65,293 หน่วย นี่แสดงว่าจำนวนแต่ละโครงการที่เปิดในปีนี้มีขนาดเฉลี่ยใหญ่ขึ้น กล่าวคือ 216 หน่วยต่อโครงการ ในขณะที่เมื่อปีที่แล้วขนาดเฉลี่ยของโครงการคือ 184 หน่วย
การที่โครงการมีขนาดใหญ่ขึ้นก็เพราะสินค้าที่ขายมีราคาถูกลง กล่าวคือเมื่อปีที่แล้วราคาขายต่อหน่วยเป็นเงิน 3.009 ล้านบาท แต่กลับลดลงเหลือ 2.462 ล้านบาทในปี 2550 หรือลดลงถึง 18% โดยเฉลี่ย การทำสินค้าที่มีราคาถูกลง อาจสามารถทำแบบจำนวนมาก ๆ ได้มากขึ้น จึงทำให้จำนวนหน่วยมีมากขึ้นนั่นเอง
สินค้าที่เป็นที่นิยมของตลาดได้แก่ อาคารชุดพักอาศัย เพราะเป็นสินค้าที่สามารถหาซื้อเพื่ออยู่อาศัย ลงทุนหรือเก็งกำไรโดยคาดหวังให้เกิดมูลค่าเพิ่มและค่าเช่าที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากได้ ภาวะขณะนี้ยังไม่เห็นการล้นตลาด เพราะแม้มีคนจองซื้อกันมากมาย แต่การก่อสร้างในหลายโครงการก็อาจล่าช้าและหากสถานการณ์ไม่ดี ก็อาจสามารถเจรจายกเลิกโครงการ การล้นตลาดแบบสมัยก่อนจึงไม่มีโอกาสเกิดขี้นในปัจจุบัน