ตลาดที่อยู่อาศัยล่าสุด หาดใหญ่ ณ สิ้นปี 2557
  AREA แถลง ฉบับที่ 173/2558: วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ตลาดที่อยู่อาศัยในหาดใหญ่ชะลอตัวลงพอสมควร มีการเปิดตัวโครงการน้อยลง ขายได้น้อยลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ในขณะนี้

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้นำเสนอผลการศึกษาล่าสุดในนครหาดใหญ่ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน ศกนี้ ณ นครหาดใหญ่ โดยร่วมจัดสัมมนาโดยไม่คิดมูลค่าแก่สาธารณะ และเป็นผู้สนับสนุนการสัมมนาด้วยการสนับสนุนด้านสถานที่และเครื่องดื่มเครื่องเคียง ดร.โสภณ จึงทำสรุปผลการนำเสนอ เสนอต่อสาธารณะชนด้วย

            ล่าสุด ตลาดมี 228 โครงการ 15,598 หน่วย รวมมูลค่า 44,767 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วหน่วยละ 2.87 ล้านบาท ยังเหลือขายอยู่เพียง 2,458 หน่วย  สินค้ากลุ่มใหญ่ที่สุด 37% ขายในราคา 1-2 ล้นบาท บ้านกลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุด มี 45% บ้านเดี่ยว 22% และทาวน์เฮาส์ 18% หากแยกเป็นกลุ่มๆ ตามระดับราคา สินค้าหลักในตลาดหาดใหญ่คือห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาทมี 30% ของทังตลาด บ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท มี 12% ห้องชุด ราคา 2-3 ล้านบาท 10% ทาวน์เฮาส์ 2-3 ล้านบาท 9%

            ณ โซน 1 ใจกลางเมือง มีหน่วยขายทั้งหมด 4,776 หน่วย เท่ากับ 31% ของทั้งตลาดหาดใหญ่ หน่วยขายมีราคา 2.7 ล้านบาท แสดงว่าขายสินค้าราคาไม่แพง กลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุดมี 3,812 หน่วย เท่ากับ 80% ของสินค้าในโซน 1 นี้ ห้องชุดเหล่านี้ขายได้แล้ว 3,469 หน่วย เหลือ 316 หน่วย เท่ากับขายไปแล้ว 90% สินค้าห้องชุดส่วนมากเป็นในราคา 1-2 ล้านบาท หรือเป็น 43% ของสินค้าในตลาดทั้งหมด และที่ขายดีมีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท (ที่ราคาสูงกว่านี้ขายไม่ดี)

            ณ โซน 2 กาญจนวนิช ม.อ. มีหน่วยขายทั้งหมด 2,149 หน่วย เท่ากับ 14% ของทั้งตลาดหาดใหญ่ มีมูลค่าทั้งหมด 7,406 ล้านบาท หน่วยขายมีราคา 3.44 ล้านบาท แสดงว่าขายสินค้าราคาสูง แต่สินค้ากลุ่มใหญ่สุดก็ยังเป็นห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาทเป็นสำคัญ กลุ่มนี้ขายได้ 1,968 หน่วย หรือ 92% ของทั้งหมด ที่อยู่อาศัยในโซนนี้หลากหลาย กลุ่มใหญ่ที่สุดคือห้องชุดมี 813 หน่วย เท่ากับ 38% เป็นบ้านเดี่ยว 597 หน่วย (28%) และทาวน์เฮาส์ 17%

            ณ โซน 3 บ้านพรุ นาทวี โซนนี้มีขนาดเป็นอันดับที่ 3 มี 3,994 หน่วย หรือ 25% ของทั้งหมด 15,598 หน่วย ขายเหลืออยู่เพียง 16% หรือ 644 หน่วย  มากกว่าครึ่งหนึ่งขายห้องชุด 2,309 หน่วยหรือ 57% ของทั้งโซน และขายในราคา 1-2 ล้านเป็นหลัก (1,820 หน่วยหรือ 46%) รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 748 หน่วย (19%)  เป็นทาวน์เฮาส์ 467 หน่วย (12%) และตึกแถว 7% ผลประกอบการปรากฏว่าขายดี ยกเว้นที่ดินจัดสรร

            ณ โซน 4 สนามบิน ควนรัง โซนนี้มี 2,593 หน่วย หรือ 17% ของอุปทานทั้งหมดในตลาดหาดใหญ่ ขายได้แล้ว 2,074 หน่วยหรือ 80% ของทั้งโซน โซนนี้ถือเป็นโซนบ้านเดี่ยวเป็นหลัก มี 1,413 หน่วย (54% ของโซนนี้) ส่วนใหญ่ของบ้านเดี่ยวขายราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 1,011 หน่วย (39% ของทั้งโซน) และขายดี ยกเว้นบ้านเดี่ยวที่เกิน 5 ล้านบาท  ส่วนทาวน์เฮาส์มี 681 หน่วย (26%) ขายดีโดยเฉพาะที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดมีเพียง 1 โครงการ

            ณ โซน 5 ท่าช้าง ลพบุรีราเมศวร์ โซนนี้มีขนาดเล็กสุดแต่มีโครงการมากถึง 50 โครงการ รวมหน่วยขายเพียง 2,086 หน่วยหรือ 13% ของทั้งตลาด กลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือทาวน์เฮาส์ 771 หน่วยหรือ 37% ในรายละเอียดพบว่าทาวน์เฮาส์ส่วนใหญ่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย ขายได้ 73% แล้ว ทาวเฮาส์ราคาเกิน 3 ล้านบาทขายได้ยาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มบ้านเดี่ยว 494 หน่วย (24%) กลุ่มบ้านแฝด ห้องชุดและที่ดินจัดสรรที่มีจำนวนค่อนข้างน้อย

            ในการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี 2557 พบว่ามีเปิดตัวน้อย คือมีเพียง 33 โครงการ 1,166 หน่วย รวมมูลค่า 4,001 ล้านบาท ตกเป็นเงินหน่วยละ 3.4 ล้านบาท กลุ่มใหญ่ที่สุดขายในราคา 3-5 ล้านบาท ถึง 29% สินค้าที่เสนอขายกลุ่มใหญ่สุดคือทาวน์เฮาส์ 459 หน่วย (39%) ตึกแถว 239 หน่วย (20%) และห้องชุด 220 หน่วย (15%) และโซนที่เปิดตัวมากสุดคือ โซน 5 ที่มีอยู่น้อยสุดนั่นเอง โดยเปิดถึง 667 หน่วย หรือ 57% ของการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด

            ในด้านของการขายได้ในปี 2557 พบว่ามีหน่วยที่ขายได้ทั้งหมด 2,079 หน่วย รวมมูลค่า 6,303 ล้านบาท เฉลี่ยต่อหน่วยที่ขายได้คือ 3.03 ล้านบาท แสดงว่าขายบ้านราคาไม่สูงมากนัก ที่ขายได้กลุ่มใหญ่สุดราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 504 หน่วย (24%) หากแยกเป็นประเภท จะพบว่าห้องชุดขายได้มากสุด 930 หน่วย (44% ของทั้งตลาดที่ขายได้) สินค้าในโซน 1 ขายได้มากสุด 652 หน่วย (31%) ส่วนสินค้าที่เหลือขายมากได้แก่ห้องชุด 2-3 ล้านบาทและ 1-2 ล้านบาทต่อหน่วย โดยมีสัดส่วนที่เหลืออยู่ประมาณ 12% และ 11% ตามลำดับ

            โดยสรุปแล้วสถานการณ์ในขณะนี้ชะลอตัวลง การเปิดตัวโครงการใหม่จำเป็นต้องมีการศึกษาให้ดีเป็นพิเศษ แนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีอาจจะไม่ดีดังหวัง ผู้ประกอบการและผู้ซื้อบ้านจึงควรตรวจสอบสถานการณ์โดยใกล้ชิด การคุ้มครองเงินดาวน์ และรับผิดชอบต่อผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้ความมั่นคงแก่ตลาดในระยะยาว


อ่าน 2,174 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved