ความสูญเสียจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2557 ในด้านการท่องเที่ยวเป็นเม็ดเงินเท่าไหร่ หากบ้านเมืองสงบ (บนพื้นฐานที่มีความเป็นธรรมในสังคม) คงจะดีกว่านี้
เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ว่า "จำนวนนักท่องเที่ยว (ต่างชาติ) ในเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านนั้น (คาดว่า) ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 30%" (http://bit.ly/1dj7CIE) แต่ในความเป็นจริง กรมการท่องเที่ยวรายงานว่าในรอบ 5 เดือนแรก จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25% โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 38% (http://goo.gl/6rBkLL) เพราะเดือนดังกล่าวมีรัฐประหารเกิดขึ้นในปี 2557 จึงมีนักท่องเที่ยวน้อยเป็นพิเศษ
สถิตินักท่องเที่ยวของไทยเป็นดังนี้:
1. ในห้วงเวลา 8 ปี ณ พ.ศ.2550-2557 นั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวคือ 7.99% และรายได้เพิ่มขึ้น 11.14% เพราะมีช่วงของความไม่สงบเกิดขึ้น 2 ช่วงคือในช่วงชุมนุมเหลือง/แดง-ปิดสนามบิน พ.ศ.2551-2 และช่วงรัฐประหาร พ.ศ.2557
2. หากไม่เอาช่วงปี 2557 ที่ตกต่ำสุดขีดจากการชุมนุม กปปส. และรัฐประหาร จะพบว่าอัตราการขยายตัวคือ 10.65% ในด้านจำนวนนักท่องเที่ยว และ 13.51% ในด้านรายได้เข้าประเทศ
3. หากในยามบ้านเมืองปกติ การขยายตัวของการท่องเที่ยวของไทยจะเร็วมาก คือในช่วงปี 2552-2556 การเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 17.03% ในด้านจำนวนนักท่องเที่ยว และ 23.10% ในด้านรายได้เข้าประเทศ
ดังนั้นความไม่สงบทางการเมือง จึงเป็นเหตุบั่นทอนจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เช่น ประเทศที่เคยไม่มีความสงบในอดีต ปรากฎว่าแม้ปี 2556 ก็ยังมีนักท่องเที่ยวน้อย เช่น ศรีลังกา มีนักท่องเที่ยวเพียง 1.3 ล้านคน ฟิลิปปินส์มี 4.68 ล้านคน และอินโดนีเซียมี 8.8 ล้านคน ทั้งนี้ข้างต้นเป็นข้อมูลของทางธนาคารโลก (http://goo.gl/ZxtKG)
หากพิจารณาจากจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวจะพบว่านักท่องเที่ยวและเงินรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้สูงกว่าปี 2557 เป็นอย่างมาก แต่กรณีนี้เป็นเพราะปีที่แล้ว ประเทศขาดความสงบ หากจะเปรียบเทียบควรจะเทียบกับปีปกติ เช่นปี 2556 ดังนี้:
1. ในปี 2556 มีนักท่องเที่ยวมา 26.5 ล้านคน หากไม่มีเหตุการณ์ทางการเมือง และให้อัตราการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเป็น 12% ต่อปีโดยประมาณ (เฉลี่ยจากสูงสุด-ต่ำสุดตามตารางแรก) นักท่องเที่ยวในปี 2557 และ 2558 น่าจะเป็น 29.7 และ 33.3 ล้านคนโดยประมาณ แต่โดยที่ขาดความไม่สงบ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจริงในปี 2557 จำนวน 24.8 ล้านคน และจากข้อมูล 5 เดือนแรก 12.4 ล้านคน จึงประมาณการเป็น 29.8 ล้านคนในปี 2558 (=12448641*12/5) แสดงว่านักท่องเที่ยวในปี 2557-8 หายไปถึง 8.3 ล้านคน
2. ในด้านรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2556 ณ 1.17 ล้านล้านบาท ในปี 2557 เหลือ 1.14 ล้านล้านบาท และคาดการณ์ว่าในปี 2558 น่าจะเป็น 1.4 ล้านล้านบาท (จำวน 592,923 ล้านใน 5 เดือนแรก *12/5) ส่วนรายได้ที่ควรจะเป็น ในที่นี้ยังสมมติให้เพิ่มขึ้น 12% เท่าการเพิ่มของจำนวนหน่วยงาน ก็จะเท่ากับการสูญเสียรายได้ไปประมาณ 326,239 ล้านบาท ในห้วงปี 2557 และ 2558
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าศักยภาพที่ไทยควรจะรองรับได้ประมาณ 8.3 ล้านคน และทำให้เม็ดเงินหายไป 326,239 ล้านบาท ในห้วงปี 2557 และ 2558 นี่จึงเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากความไม่สงบทางการเมือง ประเทศชาติจึงต้องการความสงบ แต่บนพื้นฐานของความเสมอภาค เท่าเทียม หาไม่ก็จะเป็นความสงบสุขแบบ "ไฟสุมขอน" หรือ "ซุกปัญหาไว้ใต้พรม" เพื่อรอวันที่ปัญหาจะปะทุออกมา ซึ่งจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ