การนำบ้านเอื้ออาทรมาขายใหม่ในนามบ้านยั่งยืนตามนโยบายของนายกฯ เรื่องสร้างบ้านราคาถูกตามแนวรถไฟฟ้านั้น ชี้ให้เห็นชัดว่าบ้านที่หวังจะสร้างคงไม่มีความเป็นไปได้ เพราะขณะนี้แม้แต่บ้านเอื้ออาทรที่อยู่ไกลสถานีรถไฟฟ้า ยังขายเกิน 300,000 บาท เป็นส่วนมาก
ตามที่ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงเรื่องบ้านยั่งยืนว่าในเบื้องต้นว่าจะเอา "บ้านล็อตที่มีบางส่วนเหลือขายจากโครงการบ้านเอื้ออาทรเดิม และบางส่วนรับคืนจากผู้ที่ผ่อนต่อไม่ไหว จะนำมาเร่งการขายรอบใหม่ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ต้องการจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยบ้านยั่งยืนมีทั้งหมด 244 โครงการทั่วประเทศ รวม 13,583 หน่วย แบ่งเป็นโครงการอาคารชุดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ขายต่ำกว่า 3 แสนบาท/หน่วย 17 โครงการ จำนวน 736 หน่วย โครงการอาคารชุดและบ้านพร้อมที่ดิน 3-4 แสนบาท/หน่วย จำนวน 11 โครงการ รวม 1,117 หน่วย โครงการอาคารชุดและบ้านพร้อมที่ดิน 4-5 แสนบาท/หน่วย จำนวน 67 โครงการ รวม 9,088 หน่วย และโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 5 แสนบาทขึ้นไป จำนวน 149 โครงการ รวม 2,642 หน่วย โดยจะเริ่มเปิดให้จองรอบใหม่วันที่ 28 ส.ค. - 6 ก.ย. ศกนี้ ที่สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ วางเงินจอง 1,000 บาท"
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส มีความเห็นต่อเรื่องบ้านเอื้ออาทรและบ้านยั่งยืน ดังนี้
1. ดร.โสภณ เคยทำหนังสือถึงนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 17 มกราคม 2546 (http://goo.gl/frRetU) ว่าไม่ควรสร้างบ้านเอื้ออาทรเพราะภาคเอกชนก็จัดหาที่อยู่อาศัยได้อยู่แล้ว ไม่ได้ส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลในสมัยนั้นก็ตัดสินใจสร้างเพราะได้ข้อมูลเท็จที่ว่ามีผู้มีรายได้น้อยมากมาย ทั้งที่ ดร.โสภณ เคยสำรวจชุมชนแออัดทั่วประเทศ และพบว่ามีน้อยมาก ข้อมูลที่รัฐบาลสมัยนั้นได้มานั้นคงไปรวมพวกชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน บุกรุกป่าเขาในภูธรไว้ด้วย
2. การที่บ้านเอื้ออาทรที่จะกะสร้าง 1 ล้านหน่วย แล้วลดลงเหลือ 600,000 หน่วย แต่สร้างจริงเพียง 300,000 หน่วยนั้น แสดงว่าไม่ประสบผลสำเร็จ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้ประโยชน์ก็มี แต่ผู้เช่าอยู่หรือแม้แต่ชาวต่างชาติอยู่ก็มาก เช่น บ้านเอื้ออาทรสมุทรสาคร (ท่าจีน) จนมีข่าวรุมตีคนตาย (https://goo.gl/36sHNd)
3. อย่างไรก็ตามการนำบ้านเอื้ออาทรมาขายใหม่โดยไม่สร้างสินค้าใหม่ นับเป็นสิ่งที่ดี ไม่เช่นนั้นจะยิ่งสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะที่นายกรัฐมนตรีแถลงจะสร้างบ้านราคา 300,000 บาท ริมระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะราคาบ้านเอื้ออาทรที่ตั้งอยู่ห่างไกลรถไฟฟ้า และกระทรวงฯ จะนำมาขาย ก็มีราคาเกิน 300,000 บาท เป็นส่วนมากอยู่แล้ว
4. การจองด้วยเงินเพียง 1,000 บาท อาจน้อยเกินไป หากผู้จองเปลี่ยนใจก็จะทำให้ผู้อื่นเสียสิทธิไป ในช่วงสร้างบ้านเอื้ออาทรในช่วงก่อนหน้านี้ ก็มักให้จองเพียง 1,000 บาท แล้วก็สร้างเลย แต่พอสร้างเสร็จ ผู้ซื้อกลับไม่มาโอนเป็นจำนวนมากพอสมควรเช่นกัน