ดร.โสภณชี้ว่า ในปัจจุบันยังมีห้องชุดขายในราคาต่ำสุดคือ 310,000 บาท ทั้งนี้เป็นโครงการของภาคเอกชนที่แม้แต่ภาครัฐยังขายไม่ได้ในราคานี้ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีห้องชุดที่มีราคาสูงสุดถึง 273.7 ล้านบาท หรือตกตารางเมตรละ 350,000 บาท สูงกว่าห้องชุดราคาต่ำสุดทั้งห้องเลยทีเดียว
จากการสำรวจของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) พบว่าในขณะนี้มีราคาที่อยู่อาศัยประเภทห้องชุดที่มีราคาสูงสุดและต่ำสุดอยู่จำนวนหนึ่งที่ควรศึกษา และหากมีผู้ใดสนใจก็สามารถซื้อหาได้ ทั้งนี้ประมวลจากโครการที่อยู่อาศัยทั้งหมดประมาณ 1,700 โครงการที่เพิ่งสำรวจ
ในกรณีห้องชุดราคาถูก สินค้าที่ถูกที่สุดนั้นราคาเพียง 310,000 บาทต่อหน่วย คือโครงการบางปะอินเอกเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ถนนอุดมศรยุทธิ์ ส่วนโครงการที่มีราคาต่อตารางเมตรต่ำสุดคือ โครงการป๊อปปูล่า 1 และ 2 มีมูลค่าเพียง 11,875 บาทต่อตารางเมตร ราคานี้สร้างใหม่โดยไม่รวมค่าที่ดิน ยังไม่สามารถสร้างได้ หากรัฐบาลจะจัดหาที่อยู่อาศัยราคาถูก ก็ควรซื้อจากโครงการนี้ในราคาเหมา ซึ่งอาจถูกกว่านี้อีก โดยไม่ต้องเสียเงินค่าก่อสร้างใหม่ ซึ่งอาจมีโอกาสรั่วไหล และไม่แล้วเสร็จดังที่ผ่านมาอีก
โครงการราคาถูก 10 อันดับแรกเป็นดังนี้:
อันดับที่ 1 คือโครงการบางปะอินเอกเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ถนนอุดมศรยุทธิ์ โดยมี บจก.เอกแอนด์บีเรียลเอสเตท เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 25 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.310 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 12,400 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 59 ล้านบาท
อันดับที่ 2 คือโครงการนิรันดร์เรซิเดนซ์ 7 ตั้งอยู่ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ซ.28 โดยมี บจก.นิรันดร์กรุ๊ป (นิรันดร์แกรนด์) เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 9 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 25.6 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.350 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 13,672 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 840 ล้านบาท
อันดับที่ 3 คือโครงการป๊อปปูล่า 1 ตั้งอยู่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมี บจก.บางกอกแอร์พอร์ทอินดัสทรี เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 16 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.380 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 11,875 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 3,488 ล้านบาท
อันดับที่ 4 คือโครงการป๊อปปูล่า 2 ตั้งอยู่ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมี บจก.บางกอกแอร์พอร์ทอินดัสทรี เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 14 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.380 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 11,875 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 4,031 ล้านบาท
อันดับที่ 5 คือโครงการฟลูเฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษม 110 โดยมี บจก.ฟลูเฮ้าส์ดิเวลลอปเม้นท์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.579 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 20,679 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 23 ล้านบาท
อันดับที่ 6 คือโครงการลุมพินีทาวน์ชิป รังสิต - คลอง 1 ตั้งอยู่ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 1 โดยมี บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 21.5 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.616 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 28,651 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 2,816 ล้านบาท
อันดับที่ 7 คือโครงการใกล้ตะวัน เรสซิเด็นซ์ (อาคาร A) ตั้งอยู่ถนนคลองสาม 6/7 โดยมี บจก.พีเอ็นพร๊อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.719 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 22,469 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 38 ล้านบาท
อันดับที่ 8 คือโครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ถนนร่มเกล้า โดยมี บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 21.50 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.719 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 33,442 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 606 ล้านบาท
อันดับที่ 9 คือโครงการใกล้ตะวัน เรสซิเด็นซ์ (อาคาร B) ตั้งอยู่ถนนคลองสาม 6/7 โดยมี บจก.พีเอ็นพร๊อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 5 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 32 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.729 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 22,781 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 39 ล้านบาท
อันดับที่ 10 คือโครงการพลัม คอนโด พหลโยธิน 89 ตั้งอยู่ ปากซอยพหลโยธิน 87 โดยมี บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 8 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 22 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 0.766 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 34,818 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 726 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่มีราคาสูงสุดนั้น คือโครงการ185 ราชดำริ ตั้งอยู่ถนนราชดำริ โดยห้องเพนท์เฮาส์มีราคสูงถึง 273.7 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 350,000 บาท ซึ่งนับว่าสูงกว่าห้องชุดราคาถูกทั้งห้องเสียอีก ราคาขนาดนี้มีมูลค่าเท่ากับการนำธนบัตรราคา 1,000 บาทวางปูไว้ถึงราว 6 ชั้นเลยทีเดียว เรียกว่าอาศัยบนกองเงินกองทอง อย่างไรก็ตามราคาต่อคารางเมตรที่แพงที่สุดคือโครงการ The Diplomat 39 ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท 39 โดยมี บจก.เคพีเอ็นกรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น
สำหรับ 10 อันดับแรกของโครงการราคาแพงสุดได้แก่:
อันดับที่ 1 คือโครงการ 185 ราชดำริ ตั้งอยู่ถนนราชดำริ โดยมี บมจ.ไรมอนด์แลนด์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 35 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 782 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 273.700 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 350,000 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 1,369 ล้านบาท
อันดับที่ 2 คือโครงการนิมิต หลังสวน ตั้งอยู่ถนนหลังสวน โดยมี บมจ.เพซดีเวลลอปเมนท์คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 53 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 617 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 250.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 405,186 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 1,250 ล้านบาท
อันดับที่ 3 คือโครงการ The Diplomat 39 ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท 39 โดยมี บจก.เคพีเอ็นกรุ๊ปคอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 31 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 450.0 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 185.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 411,111 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 740 ล้านบาท
อันดับที่ 4 คือโครงการ185 ราชดำริ ตั้งอยู่ถนนราชดำริ โดยมี บมจ.ไรมอนด์แลนด์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 35 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 469 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 164.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 349,680 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 820 ล้านบาท
อันดับที่ 5 คือโครงการเทลลา ทองหล่อ ตั้งอยู่ถนนทองหล่อ 13 โดยมี บจก.เกษรวัฒนา เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 33 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 425.2 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 140.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 329,257 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 280 ล้านบาท
อันดับที่ 6 คือโครงการแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม ตั้งอยู่ถนนเจริญนคร โดยมี บจก.ดิไอคอนสยามเรสซิเดนซ์คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 70 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 346 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 125.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 361,272 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท
อันดับที่ 7 คือโครงการ Marque Sukhumvit ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท 39 โดยมี บจก.เมเจอร์เรสซิเด้นส์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 50 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 400.00 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 120.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 300,000 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 840 ล้านบาท
อันดับที่ 8 คือโครงการ My Resort@River ตั้งอยู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ 72 โดยมี บจก.อิควิตีเรสซิเดนเชียลเจ้าพระยา เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 37 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 784 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 119.000 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 151,786 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 238 ล้านบาท
อันดับที่ 9 คือโครงการ Q Sukhumvit ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท โดยมี บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 42 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 345.00 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 103.500 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 300,000 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 311 ล้านบาท
อันดับที่ 10 คือโครงการเดอะริทซ์-คาร์ตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ตั้งอยู่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมี บจก.เพซดีเวลลอปเมนท์ทู เป็นผู้ประกอบการ โครงการนี้เป็นอาคารชุดสูง 77 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 285.00 ตารางเมตร มีราคาขายหน่วยละ 81.225 ล้านบาท หรือตกเป็นเงินตารางเมตรละ 285,000 บาท มีมูลค่าโครงการรวม 1,625 ล้านบาท
การที่ภาคเอกชนสามารถจัดหาที่อยู่อาศัยในราคาถูก ต่ำกว่าของทางราชการเสียอีก แสดงให้เห็นว่าในภาคส่วนเหล่านี้ของตลาดที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นที่รัฐจะเข้าไปแข่งขัน ปล่อยให้ภาคเอกชนดำเนินการไปเอง รัฐบาลยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ปิดโอกาสการรั่วไหล และยังสามารถประกันถึงการแล้วเสร็จในการก่อสร้างได้อีกด้วย และแม้ว่ากรุงเทพมหานครจะมีที่อยู่อาศัยราคาสูงมากเช่นอาระประเทศอื่น แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่ามหานครอื่น เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ เป็นต้น