ดร.โสภณ ย้อนศรให้ข้อเสนอแนะใหม่แก่รัฐบาล โดยให้เพิ่มภาษีและค่าธรรมเนียมในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์
เมื่อวานนี้นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงอยู่ระหว่างการศึกษาการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมการโอน และ ค่าธรรมเนียมการจดจำนองอย่างถาวร เพื่อหวังกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีข้อสรุปเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีภายในปีนี้ (http://bit.ly/1KRqu0Q) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) มีข้อคิดเห็นว่า ไม่ควรมีการลดภาษีใด ๆ นอกจากนี้อีกแล้ว
ดร.โสภณ เสนอให้เพิ่มภาษีค่าธรรมเนียมโอน โดยหากมีการโอนขายหลังการซื้อขายภายในระยะเวลา 6 เดือน ให้เก็บค่าธรรมเนียมการโอน 15% หากโอนพ้นกำหนด 6 เดือนแต่ภายในระยะเวลา 1 ปี ให้คิดค่าธรรมเนียมโอน 10% แต่หากโอนภายในกำหนดไม่เกิน 2 ปี ให้เสียค่าธรรมเนียมโอน 5% ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเก็งกำไร เพราะการเก็งกำไร ทำให้ประชาชนผู้ที่จะซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยขาดโอกาสไป และเป็นการทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้พบผู้ซื้อเพื่อใช้สอยหรือ End Users จริง และที่ผ่านการนักเก็งกำไรระยะสั้น จะเข้าข่ายป่วนตลาด
การเพิ่มภาษีนี้นอกจากจะทำให้รัฐบาลได้เงินมาทำนุบำรุงประเทศเพิ่มขึ้น ยังจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการตลาดและการขายได้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น แต่อาจทำให้อัตราการขายลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้มีการทำกำไรโดยไม่ได้ทำการผลิตใด ๆ (Unearned Increment of Value) เป็นการเอาเปรียบสังคม และสร้างโอกาสการฉ้อฉลแบบ "มือใครยาว สาวได้สาวเอา" ดังนั้นเพื่อประเทศชาติ และประชาชนผู้บริโภค จึงควรที่จะขึ้นภาษีนี้
นอกจากนั้น ดร.โสภณ ยังเสนอให้รัฐบาลสั่งธนาคารลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 2% เพื่อช่วยธุรกิจ SMEs รวมทั้งวิสาหกิจอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงจนเกินไป สถาบันการเงินต่าง ๆ มีผลการประกอบการกำไรมหาศาลในแต่ละปีที่ผ่านมา จึงควรลดดอกเบี้ยลงบ้าง สำหรับมาตรการในระยะยาว ควรเปิดโอกาสให้มีการตั้งธนาคารเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด ทำให้ช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และดอกเบี้ยเงินฝากลดลง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ประชาชน และประเทศชาติโดยรวม