AREA แถลง ฉบับที่ 23/2553: 19 เมษายน 2553
รายงานสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีนาคม 2553
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ในเดือนมีนาคมนี้ มีโครงการเกิดใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 35 โครงการ มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมามากถึง 12 โครงการ ลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยจำนวน 33 โครงการ และอีก 2 โครงการ เป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ มีจำนวนหน่วยขายรวมทั้งสิ้น 12,838 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 28,662 ล้านบาท
อสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 12,838 หน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมามากถึง 8,081 หน่วย (เดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวน 4,757 หน่วย) หรือเพิ่มขึ้นถึง 170% ประเภทที่มีการพัฒนามากที่สุด คืออาคารชุดมีจำนวน 6,966 หน่วย (54.3%) รองลงมาคือทาวน์เฮ้าส์ 2,545 หน่วย (19.8%) ส่วนอันดับ 3 คืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ 1,866 หน่วย (14.5%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนมีนาคม 2553 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 28,662 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาจำนวน 17,914 ล้านบาท (เดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีมูลค่า 10,748 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นถึง 167%
หากพิจารณาประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดแล้ว จะพบว่าในเดือนนี้ อาคารชุดมีมูลค่าการพัฒนาสูงที่สุด โดยมีมูลค่าสูงถึง 19,088 ล้านบาท (66.6%) หรือประมาณ 2 ใน 3 ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดในเดือนนี้ รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ 4,153 ล้านบาท (14.5%) และบ้านแฝด 2,153 ล้านบาท (7.5%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้จะเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายระดับล่างถึงปานกลาง โดยเฉพาะกลุ่มอาคารชุด และทาวน์เฮ้าส์ที่ระดับราคา 1-2 ล้านบาท
หากพิจารณาเรื่องระดับราคาขายในเดือนนี้จะเน้นที่ระดับราคาราคาค่อนต่ำจนถึงปานกลาง โดยเฉพาะที่ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท มีจำนวนมากถึง 10,097 หน่วย (78.6%) ของจำนวนที่เปิดขายทั้งหมด โดยแบ่งระดับได้ดังนี้
- ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จำนวน 2,208 หน่วย (17.2%) มีมูลค่าโครงการ 1,318 ล้านบาท (4.8%)
- ระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 5,558 หน่วย (43.3%) มีมูลค่าโครงการ 8,288 ล้านบาท (28.9%)
- ระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 2,331 หน่วย (18.2%) มีมูลค่าโครงการ 5,917 ล้านบาท (20.6%)
- ระดับราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 2,284 หน่วย (17.8%) มีมูลค่าโครงการ 9,485 ล้านบาท (33.1%)
- ระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 457 หน่วย (3.6%) มีมูลค่าโครงการ 3,591 ล้านบาท (12.5%)
ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเดือนนี้อยู่ที่ประมาณ 2.233 ล้านบาทต่อหน่วย ลดลงเล็กน้อยจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยที่ 2.259 ล้านบาทต่อหน่วย แสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่เน้นระดับราคาค่อนข้างถูกและปานกลางเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มอาคารชุดที่อยู่ในเขตเมืองชั้นในและชั้นกลาง รวมถึงกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ที่ตั้งอยู่บริเวณเขตติดต่อเมือง ซึ่งมีระบบโครงข่ายการคมนาคมที่สะดวก และมีสาธารณูปโภคที่พร้อมสำหรับการอยู่อาศัยจึงมีการขยายตัวค่อนข้างมาก
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 10 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) จำนวน 9 โครงการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท วังทองกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 โครงการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ในฐานะศูนย์ข้อมูล-วิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินที่มีฐานข้อมูลภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุด ได้รับ ISO 9001-2008 ทั้งระบบแห่งแรกในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น และเป็นสมาชิก UN Global Compact อีกด้วย |