ท่ามกลางวิกฤติเหล็กโลกที่ทำให้บริษัทเหล็กหลายแห่งปิดกิจการไป กลับทำให้ราคาค่าก่อสร้างอาคารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (http://www.area.co.th) ได้รับรายงานจากฝ่ายวิศวกรรมและประมาณราคาค่าก่อสร้างอาคารว่า
1. ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม - กันยายน 2558) ราคาค่าก่อสร้างอาคารโดยรวมลดลงไป 0.8% ทั้งนี้เป็นผลจากการลดลงของราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ลดลงไปถึง 3.0%
2. ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา (กันยายน 2557-2558) พบว่า ราคาค่าก่อสร้างอาคารกลับลดลงถึง 6.1% ทั้งนี้เป็นผลจากราคาเหล็กและผลิตภัณ์เหล็กลดลงไปถึง 18.2% อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปาก็ลดลงไป 5.6% ส่วนซีเมนต์ก็ลดลงไป 3.7%
3. ในช่วง 9 เดือนของปี 2557 เทียบกับ 9 เดือนของปี 2558 พบว่า ราคาค่าก่อสร้างลดลงไป 4.6% โดยเป็นผลจากการลดราคาลงของเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และซีเมนต์ ที่ลดลงไป 13.9% 5.3% และ 3.5% ตามลำดับ
จะสังเกตได้ว่าเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กเป็นองค์ประกอบถึงประมาณ 20.92% ของค่าก่อสร้างโดยรวม จึงทำให้การลดลงของเหล็กนี้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงราคาในเชิงลดลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามจะพบว่ากระเบื้อง วัสดุฉาบผิว สุขภัณฑ์ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ มีราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
โดยนัยนี้ค่าก่อสร้างอาคารจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด หากสมมติกรณีนี้เป็นอาคารบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง ต้นทุนค่าก่อสร้างบ้าน จะเป็นประมาณ 1 ส่วน ส่วนต้นทุนที่ดินเป็น 2 ส่วน รวมเป็น 3 ส่วน ดังนั้นหากต้นทุนค่าก่อสร้างลดลง 6.1% ส่วนต้นทุนที่ดินเพิ่มขึ้น 3% โดยประมาณ จึงทำให้ราคาบ้านไม่เปลี่ยนแปลง ตามรายละเอียดดังนี้
= {1 * (1-6.1%)} + {2 * (1 + 3%)}
= 2.999 หรือราว ๆ 3.0 ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ดังนั้นราคาบ้านจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา