เศรษฐกิจจะกระตุ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการเลือกตั้ง
  AREA แถลง ฉบับที่ 312/2558: วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2558

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

          จะจัดเลือกตั้งเมื่อไหร่เป็นสิ่งที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ในที่นี้เพราะเป็นเรื่องการเมือง แต่มีเลือกตั้งเมื่อไหร่ เศรษฐกิจจะถูกกระตุ้นให้ดีขึ้น มาตรการใด ๆ ในขณะนี้ คงช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นไม่ได้มากนัก

          ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไปควรให้กำลังใจรัฐบาล เพราะหากสามารถทำได้สำเร็จ ประเทศชาติก็จะเจริญก้าวหน้า ความผาสุกก็จะเกิดขึ้น ความสมานฉันท์ก็จะเกิดตามมา อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะประสบความสำเร็จค่อนข้างจำกัด และอาจกลายเป็นการสร้างปัญหาของประเทศในอนาคต

          การที่เศรษฐกิจไทยจะไม่กระเตื้องนั้น ไม่ใช่เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกแต่อย่างใด ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ในประเทศอาเซียนทั้งหลายนั้น ประเทศอื่น ๆ มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศในอินโดจีน รวมทั้งเมียนมา ประเทศมาเลเซียที่แม้จะมีปัญหาการส่งออกน้ำมันซึ่งขณะนี้ราคาตกต่ำเป็นอย่างยิ่ง หรือแม้แต่ประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ยกเว้นประเทศบรูไน ที่มีขนาดเล็ก ๆ ใหญ่กว่ากรุงเทพมหานครของเราเพียง 3 เท่าเท่านั้น ดังนั้นเราจึงไม่อาจอ้างความตกต่ำทางเศรษฐกิจในยุโรปมาเป็นข้ออ้างถึงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในประเทศไทยของเรา ยิ่งกว่านั้นในสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวแล้ว

          เศรษฐกิจที่ไม่กระเตื้องก็เพราะประเทศไทยยังไม่มีการเลือกตั้ง ภาวะนี้คล้ายเมียนมาก่อนที่จะเปิดประเทศด้วยการจัดการเลือกตั้งเสรี และหลังจากนั้นประเทศต่างๆ ก็มาทำการค้า การลงทุนมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจของเมียนมา แทบจะไม่เติบโต แต่ปรากฏว่าในขณะนี้เศรษฐกิจของเมียนมา นับว่าเติบโตสูงสุดในประเทศอาเซียนทั้งมวล นี่แสดงถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง

          การที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง จึงทำให้การค้ากับประเทศในยุโรปและอเมริกา ค่อนข้างถูกจำกัดและกีดกัน มาตรการบีบไทยก็จะหนักขึ้น การเดินทางมาเยือนของผู้นำประเทศเหล่านี้ก็ไม่มี หรือไทยก็อาจไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมในประเทศเหล่านี้ยกเว้นที่เป็นการประชุมในระดับนานาชาติ เช่นที่มีการจัดการประชุมองค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์กที่ท่านนายกรัฐมนตรีของไทยได้มีโอกาสเดินทางไป ในขณะเดียวกันจีนที่เป็นพันธมิตรสำคัญของไทย ก็อาจประสบปัญหาเศรษฐกิจในไม่ช้า โอกาสที่จะช่วยไทยได้เต็มที่ คงหวังได้ยาก

          และโดยที่ไทยจะมีการเลือกตั้งในปี 2560 การซึมยาวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจึงอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจากปี 2557, 2558 และถึงปีหน้า 2559 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2560 ในภาวะขณะนี้กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือกลุ่มประชาชนทั่วไป และภาคเอกชน แต่กลุ่มที่อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักก็คือกลุ่มข้าราชการที่มีเงินเดือนประจำที่แน่นอน และกลุ่มนักธุรกิจระดับสูง

          โดยที่เศรษฐกิจยังไม่มีโอกาสปรับตัวดีขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบท กลับอาจไม่ช่วยให้เกิดการลงทุนเพิ่มเติม เพราะลู่ทางการลงทุนในขณะนี้ยังตีบตัน เงินที่ให้กับท้องถิ่นไปจึงอาจนำไปก่อสร้างหรือทำอะไรก็ตามที่ไม่ได้เป็นการต่อยอดทางธุรกิจ แต่เป็นการสนับสนุนการรับเหมาก่อสร้างต่าง ๆ ที่ผู้ที่จะได้รับประโยชน์อาจมีอยู่ในวงจำกัด การที่จะทำให้เงินสะพัดจึงไม่มี

          การกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการผ่อนคลายกฎการอำนวยสินเชื่อ อาจทำให้สถาบันการเงินอ่อนแอลง ทำให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อาจทำให้หนี้ครัวเรือนในส่วนที่ไม่ได้เป็นทุนในการต่อยอดธุรกิจยิ่งพอกพูน และทำให้ฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชนอ่อนแอลง ประเทศชาติก็จะอ่อนแอลงไปด้วย แต่อาจทำให้การควบคุมอำนาจของรัฐเข้มข้นขึ้นเพราะในทางหนึ่งประชาชนระดับล่างอาจต้องพึ่งทางราชการมากขึ้น ไม่อาจพึ่งตนเองได้ดีเช่นในยุคก่อน ๆ ความกระด้างกระเดื่องอาจจะน้อยลง

          แต่ในทางตรงกันข้ามเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ก็อาจทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชน จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดได้ เช่น แม้ในสมัย 3 ทรราชจะมีอำนาจทางการเมืองเข้มแข็ง แต่เมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ ก็ทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาได้เช่นกัน ประเทศชาติอาจเกิดสามัคคีเภท คนไทยเชื้อชาติเดียวกันที่มีความเห็นทางการเมืองที่ต่างกัน อาจเห็นกันและกันเป็นศัตรู แต่อาจนับถือคนต่างชาติที่เห็นด้วยกันในทางการเมืองกับตนเสียอีก

          โดยสรุปแล้ว รัฐบาลจึงควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วโดยคุมการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม การเลือกตั้งอาจทำให้เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่ใช่สะพัดเพราะการซื้อเสียง แต่เป็นการทำการรณรงค์ ป้ายโฆษณา การโฆษณาในสื่อทั้งหลาย การจ้างงาน ฯลฯ ซึ่งจะยังความคึกคักให้กับเศรษฐกิจ นานาชาติก็จะสนับสนุนมากขึ้น มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของชาติก็จะกระเตื้องขึ้นอย่างแน่นอน

          ข้อเสนอของผมนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองที่บางกลุ่มพยายามให้ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ซึ่งกรณีนั้นเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งผมคงไม่อาจกล่าวถึงในที่นี้ แต่ไม่ว่าจะปฏิรูปตอนนี้ จะเสร็จเร็วหรือช้าเพียงใด เศรษฐกิจไทยก็คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง หลังเลือกตั้ง สถานการณ์เศรษฐกิจจึงจะดีขึ้นจริง

อ่าน 2,782 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved