"ท่านหากินอยู่กับนักธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์มุ่งร้ายกับธุรกิจนี้เป็นประจำ ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นการฮาราคีรีฆ่าตัวตาย หรือเรียกว่า กินบนเรือนขี้บนหลังคา อย่างไหนถูกผิด? ข้าน้อยไม่สามารถคาดเลาได้ ท่านโสภณเป็นผู้ที่ผมเคยเคารพนับถือ โปรดย้อนกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องเถิด ไม่รักไม่ชอบกันคงไม่เขียนมาเตือน หรอก! พูดแรงไปหน่อยต้องขออภัยด้วย ผมเป็นคนประเภท ปากกับใจตรงกัน คิดอย่างไร พูดอย่างนั้น ไม่ใช่พูดเอาใจคน ปากหวาน ก้นเปรี้ยว"
ผมได้รับ "คำเตือน" จากนักพัฒนาที่ดินรุ่นใหญ่ท่านหนึ่งข้างต้น คงเป็นเพราะเห็นว่าผมวิจารณ์รัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือวงการอสังหาริมทรัพย์ อาจมีคนเข้าใจผิดทำนองนี้อีก ผมจึงขอเรียนชี้แจงว่า
1. ผมไม่เคยหวังร้ายต่อธุรกิจนี้ เพราะเป็นธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่ถ้านักธุรกิจที่ไม่ดี (ไม่ว่าในวงการใด) ผมก็ไม่ "พายเรือให้โจรนั่ง" หรือหวังธุรกิจประเภท "ให้โจรพายเรือให้ (ผม) นั่ง" ผมไม่เคยเคยคบด้วยอยู่แล้วครับ
2. ที่อาจเห็นว่าผมวิจารณ์มุ่งร้ายต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น แท้จริงแล้วเป็นการมุ่งดีต่อธุรกิจนี้ให้อยู่อย่างมีเกียรติ มั่นคง เป็นที่เชื่อถือของสังคม แต่เห็นว่ารัฐบาลเข้ามาช่วยแบบผิด ๆ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า และไม่ยั่งยืน ผมจึงได้เตือนไว้ดังนี้:
- ด่วน! ระวัง ดร.สมคิดจะนำพาประเทศไปสู่หุบเหว http://bit.ly/1lID8Er
- วิพากษ์นโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ http://bit.ly/1lgMtCS
- ความเข้าใจผิดของรัฐบาลต่อคนจนนำไปสู่นโยบายที่ผิดพลาด http://bit.ly/1lgMvdX
- คิดผิด กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอสังหาริมทรัพย์ http://bit.ly/1QH7QdF
- เชียร์บิ๊กตู่กระตุ้นอสังหาฯ ให้ถูกทาง ชาวบ้านพึงระวัง http://bit.ly/1I9BZ2E เป็นต้น
3. ผมสนับสนุนวงการพัฒนาที่ดินอยู่เสมอ เช่น การต่อสู้เรื่องผังเมืองที่เป็นผลเสียต่อวงการพัฒนาที่ดิน หรือเรื่องอื่นใดที่นักธุรกิจพัฒนาที่ดินไม่กล้าออกหน้า ผมยินดีออกหน้า แต่ที่ออกหน้านี้ก็ไม่ใช่เพื่อนักธุรกิจพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะ ออกหน้าเพราะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อผู้บริโภคและสังคม ผู้ประกอบการก็ต้องทำธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ของผู้บริโภค จึงจะมีอนาคตที่ยั่งยืน
4. ผมยังเสนอให้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงบ้างเพราะถ่างห่างกันเหลือเกิน เพื่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เพิ่มภาษีค่าโอนสำหรับนักเก็งกำไรจะได้ไม่รบกวนการประมาณการกระแสเงินสดของผู้ประกอบการ ปรับปรุงมาตรการต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการพัฒนาที่ดิน รวมทั้งเสนอให้รัฐบาลในยุคปฏิรูปนี้ปราบปรามการทุจริตในวงราชการเกี่ยวกับเรื่องอสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้ประกอบการจะได้มีค่าใช้จ่ายน้อยลงไม่ต้องจ่าย "ใต้โต๊ะ" ราคาที่อยู่อาศัยก็จะถูกลง เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วย
5. ที่สำคัญผมให้ประโยชน์ต่อนักพัฒนาที่ดินตรงที่ผมมีข้อมูลที่เป็นกลาง มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม แต่เดิมนักพัฒนาที่ดินเฉพาะรายใหญ่ที่มีข้อมูล แต่ปัจจุบันรายเล็กก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เพราะ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ที่ผมก่อตั้งและเป็นประธานตั้งแต่ปี 2534 จัดทำข้อมูลที่เป็นกลางที่สุด ไม่ได้มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายใหญ่ใด ๆ มารับทราบข้อมูลไปใช้ก่อน ผมจึงช่วยให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินทั้งรายเล็กและรายใหญ่พ้นภัยจากการให้บริการข้อมูลเหล่านี้
6. แม้ผมจะให้ประโยชน์แก่วงการพัฒนาที่ดิน แต่ผมไม่เคยเลียใคร ไม่เคยมีลูกค้าที่คุ้นเคยเป็นส่วนตัวหรือ "เข้าคลุกวงใน" อยู่เลยครับ ที่มีคนมาใช้บริการก็เพราะการทำงานที่ตรงไปตรงมา ไม่เห็นแก่หน้าใครของผม ที่สำคัญ ผมไม่เคยใช้ชื่อสถาบันใดมาหากินส่วนตัว ไม่เคยทรยศหักหลังทางธุรกิจกับใคร ไม่เคยโกงหุ้นส่วน ไม่เคยทำงานด้วยลิ้น ขนาดนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ผมก็ยังวิจารณ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมจะไป "เลีย" นักธุรกิจใดหากิน ก็คงไม่ใช่วิสัยของผมอยู่แล้วครับ
เลือดเนื้อและชีวิตของผมไม่เคยได้มาจากการโกง ไม่เคยได้มาจากการเลียใครกินเลยครับ ผมยังออกเงินออกแรงทำประโยขน์ต่อส่วนรวมทั้งมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย มูลนิธิอิสรชน และอื่นๆ ไม่ได้ไปไถใครมาทำดี นี่คือความภูมิใจของผม ที่ไม่ใช่ภูมิใจจากอาภรณ์ เครื่องประดับ รถยนต์หรือความหรูหราอลังการครับผม