แนวคิดที่รัฐบาลประยุทธ์ที่นำเสนอโดย ดร.สมคิด ที่ว่าจะสร้างที่อยู่อาศัยให้ "คนจน" อยู่แบบเช่า 99 ปี เป็นแนวคิดที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่ง สร้างไปมีแต่สร้างความเสียหายต่อชาติ
            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ให้ข้อคิดว่า ความจนนั้นเป็นสิ่งสัมพัทธ์ (Relative) ไม่ใช่สิ่งสัมบูรณ์ (Absolute) การคิดหวังจะให้ชาวบ้านอยู่ไป 99 ปี หรือเพียงแค่ 10, 20 หรือ 30 ปี โดยไม่ขยับขยายไปไหนเลย จึงเป็นแนวคิดที่ไม่หยุดนิ่ง (Static) และไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงเป็นอย่างยิ่ง
            ในความเป็นจริง ความรวย หรือความจนของครอบครัวหรือบุคคลหนึ่ง ๆ นั้น เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บ้างก็รวยขึ้น บ้านก็จนลง บ้างก็รวยยิ่ง ๆ ขึ้น และก็มีบางส่วนที่จนลงไปเรื่อย ๆ ก็มี  แต่โดยแนวโน้มแล้ว ครัวเรือนไทยมีแนวโน้มที่รวยขึ้น ดีขึ้น ทั้งนี้พิจารณาได้จากสัดส่วนของคนจนต่อคนทั้งประเทศที่ลดลงตามลำดับ ความเข้าใจที่ว่าประชาชนไทยส่วนใหญ่ จึงเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและล้าสมัยไปแล้ว
            ที่อยู่อาศัยของประชาชนก็ผันแปรไปตามฐานะทางเศรษฐกิจของครัวเรือนเช่นกัน ครัวเรือนที่มีฐานะดีขึ้น ก็ย่อมขยับขยายไปอยู่ที่อยู่อาศัยที่ดีกว่า ส่วนครัวเรือนที่ยากจนลง ก็ขยับขยายไปอยู่ที่อยู่อาศัยที่เล็กหรือถูกกว่า นอกจากนั้นยังมีการขยับขยายที่อยู่อาศัยไปตามอายุ อาชีพ แหล่งงาน โรงเรียนบุตร ฯลฯ ประชากรจึงมีการย้ายถิ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หยุดนิ่ง
            ความคิดที่จะให้ประชาชนเช่า 99 ปีจึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงก็คือ ประชาชนจึงแอบขายหรือแอบให้เช่าหาผลประโยชน์เอง ทางออกที่ดีจึงควรจัดหาที่อยู่อาศัยประเภทเช่า เมื่อชาวบ้านที่เช่าอยู่มีฐานะดีขึ้นก็จะย้ายออกไปอยู่ที่ ๆ เหมาะสมสำหรับตน แต่ถ้าบางคน "สิ้นไร้ไม้ตอก" จนไม่อาจผ่อนหรือเช่าต่อได้ เนื่องจากแก่ตัวลง ไม่มีผู้ดูแล ก็สามารถให้ย้ายไปอยู่สถานสงเคราะห์คนชรา มากกว่าจะให้อยู่อย่างลำบากเพียงคนเดียวโดยไม่มีค่าเช่าที่จะจ่ายได้
            โดยสรุปแล้วหนทางในการจัดหาบ้านเช่านั้น ไม่จำเป็นที่รัฐจะสร้างแฟลตเช่าให้กับประชาชนอีกเช่นกัน แต่สามารถสนับสนุนภาคเอกชนให้สามารถจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ผ่านระบบการลดภาษี ให้แหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การลดมาตรฐานขนาดที่อยู่อาศัย หรือลดจำนวนที่จอดรถ เป็นต้น การสร้างเองของรัฐบาลรังแต่จะก่อให้เกิดโอกาสทุจริต เป็นการช่วยวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่ขายปูน ขายเหล็ก หรือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้รับเหมาสร้าง ซึ่งสร้างแล้วก็ไม่มีผู้อยู่อาศัยจริงดังในกรณีบ้านเอื้ออาทรหลายโครงการ เป็นต้น
            การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการสร้าง "บ้านคนจน" จึงเป็นการคิดผิดของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ ที่นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นั่นเอง และอาจทำให้ฐานะทางการเมืองของรัฐบาลเสื่อมทรุดลงได้