ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) แถลงว่า ในเดือนธันวาคมซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง โดยคาดว่าเป็นการชะลอตัวเพื่อไปเปิดในต้นปี 2559 โดยในเดือนนี้ มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 23 โครงการ รวม 3,860 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 10,936 ล้านบาท

          โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ ยังคงเป็นอาคารชุดเหมือนเดือนที่ผ่านมา แต่มีสัดส่วนของหน่วยขายลดลงโดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 2,124 หน่วย (55%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 1,360 หน่วย (35%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 263 หน่วย (7%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ สำหรับบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์จะตั้งอยู่ในบริเวณเขตเมืองชั้นกลาง เขตติดต่อเมือง และพื้นที่รอบนอก เช่น ถนนติวานนท์ ถนนสายไหม ถนนรามอินทรา ถนนเทพารักษ์ ถนนพระราม 2 ถนนเอกชัย และย่านบางบัวทอง ส่วนอาคารชุดจะกระจายอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการในอนาคต และตามแหล่งงาน เช่นตัวเมืองสมุทรสาคร เป็นต้น 

          เมื่อพิจารณาราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิต พบว่ามีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง (ประมาณ -53%) เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายที่มีราคาขายต่ำกว่า 3 ล้านบาทมากถึง 82% จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนที่ผ่านมาซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยที่ 6.005 ล้านบาท  แต่ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 2.833 ล้านบาท แสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เน้นสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางเป็นสำคัญ

          ในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 27% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 24% ต่อเดือน โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตราการขายได้สูงสุดอันดับ 1 คือ อาคารชุดระดับราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 305 หน่วย ขายได้แล้ว 206 หน่วย (68%) รองลงคือ อาคารชุดราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 106 หน่วย ขายได้แล้ว 61 หน่วย (58%)  และอันดับ 3 คือ อาคารชุดระดับราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 1,709 หน่วย ขายได้แล้ว 583 หน่วย (34%)

          ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 6 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท  ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (มหาชน) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และมีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 1 บริษัท นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป มีรายละเอียดดังนี้

          หากพิจารณาภาพรวมทั้งปี 2558 (มกราคม-ธันวาคม 2558) เปรียบเทียบกับทั้งปี 2557 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 385 โครงการ (ลดลง -18%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 102,953 หน่วย (-10%) มีมูลค่ารวม 416,549 ล้านบาท (เพิ่ม 20%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.042 ล้านบาทเป็น 4.046 ล้านบาท (เพิ่ม 33%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 61,975 หน่วย (60%)

          อนึ่งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) จะนำเสนอตัวเลขการสำรวจอย่างละเอียดเจาะลึกที่สุดและทันสมัยที่สุดจากผลการสำรวจที่ยาวนานที่สุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 ในงานสัมมนาทิศทางที่อยู่อาศัย 2559 ในวันที่ 20 มกราคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในระหว่างเวลา 0900-1600 ในงานนี้จะมีผลการสำรวจนำเสนอแยกเป็น 78 ทำเล 6 ประเภทที่อยู่อาศัย และ 8 ระดับราคา รวมทั้งภาวะของการเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ด้วย (รวมเอกสาร 2 บรรพ 1,200 หน้า) โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่: www.trebs.ac.th/Thai/SUMMARY/index.php?p=seminars_outlook.php

โครงการในอนาคต
อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคมนี้ทาง REI ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 334 โครงการตามตารางที่ 3 โดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป