ความเปราะบางของตลาดที่อยู่อาศัยวันนี้
  AREA แถลง ฉบับที่ 32/2559: วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2559

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

          บ้านที่กำลังขายอยู่ 171,905 หน่วยโดยผู้ประกอบการขณะนี้ ส่วนมากยังไม่แล้วเสร็จ ที่ใกล้แล้วเสร็จหรือเสร็จแล้วมีเพียงหนึ่งในสาม การพยายามออกข่าวจะสร้างบ้านคนจน แม้จะสร้างไม่ได้จริง ก็อาจส่งผลต่อการซื้อขายบ้านของภาคเอกชน ทำให้โครงการต่าง ๆ ประสบปัญหาได้ ความหวังที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจึงไม่เป็นจริง แถมจะกระทบในแง่ลงต่อเศรษฐกิจเสียอีก

          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เสนอว่ารัฐบาลควรดูแลตลาดที่อยู่อาศัยให้ดี เพราะหากเกิดปัญหาขึ้น จะทำให้ทั้งผู้ประกอบการ ผู้ซื้อบ้านและห่วงโซ่อุปทานที่อยู่อาศัยเสียหายได้
          ณ สิ้นปี 2559 มีหน่วยขายรอผู้ซื้ออยู่ 171,905 หน่วย ปรากฏว่าเป็นห้องชุดมากที่สุดคือ 67,349 หน่วย รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 48,999 หน่วย (39%) บ้านเดี่ยว 39,826 หน่วย (29%)  บ้านแฝด 11,083 หน่วย (23%) นอกนั้นเป็นตึกแถวและที่ดินจัดสรรอีกจำนวนหนึ่ง
          หากพิจารณาถึงสถานการณ์การก่อสร้างจะพบว่า มีถึง 18% ที่สร้างได้น้อยกว่า 20%  อีก 23% สร้างได้ระหว่าง 20-39% อีก 16% สร้างได้ 40-59% อีก 19% สร้างได้ระหว่าง 60-79% ที่เสร็จ 80%-99% มีอยู่ 14% ส่วนที่เสร็จ 100% มีอยู่เพียง 10% หรือ 16,818 หน่วยจากหน่วยที่ขายอยู่ 171,905 หน่วยเท่านั้น
          ที่ผ่านมาตลาดที่อยู่อาศัยไทยเป็นตลาดที่ดีที่สุดตลาดหนึ่ง เพราะรัฐบาลแทบไม่ได้ส่งเสริมอะไรเป็นพิเศษ ตลาดก็สามารถจัดหาที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยจัดหาได้ไม่น้อยกว่า 98% ของทั้งหมด เคหะชุมชนที่สร้างโดยการเคหะแห่งชาติในรอบเกือบ 40 ปีที่ผ่านมามีราว 140,000 หน่วยเท่านั้น ในขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยในรอบ 40 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 4 ล้านหน่วย ดังนั้นรัฐบาลจึงควรดูแลตลาดนี้ให้ดีเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดินและเพื่อประโยชน์สุขของทั้งผู้ซื้อบ้าน ผู้ประกอบการ สถานบันการเงิน นักลงทุน ตลอดจนสังคมส่วนรวม
          อย่างไรก็ตามโดยที่จำนวนบ้านที่สร้างเสร็จ 80% - 100% มีเพียง 34% หรือหนึ่งในสามของทั้งตลาด ที่เสร็จไม่ถึง 40% รวมกันมีถึง 45% ซึ่งถือว่าสูงมาก หากรัฐบาลไปพัฒนาที่อยู่อาศัยเองก็จะกลายเป็นปัญหาแก่การซื้อขายบ้านของภาคเอกชน รัฐบาลคงไม่สามารถสร้างบ้านราคาถูกได้มากมายอยู่แล้ว เพราะงบประมาณมีจำกัด แต่หากออกข่าวเสียใหญ่โต ชาวบ้านอาจรอคอยสินค้าจากรัฐบาล บรรดาบ้านจัดสรร ห้องชุดและอะพาร์ตเมนต์ต่าง ๆ อาจขายหรือให้เช่าไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งตามผลทางจิตวิทยา ซึ่งการนี้ทำให้อุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบ
          การที่ ดร.โสภณ นำเสนอความจริงในข้อนี้ ไม่ได้เข้าข้างผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เกรงจะส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวม อย่างไรก็ตามรัฐบาลประยุทธ์ไม่อาจสร้างที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยในระบบการขาดทุนได้นับล้านหน่วยอยู่แล้ว อย่างมากที่เคยสร้างได้ในสมัยรัฐบาลทักษิณก็สร้างได้เพียง 300,000 หน่วยเท่านั้น แต่การทำให้เกิดผลกระทบในช่วงสั้น อาจทำให้ไม่มีการจองซื้อบ้านของภาคเอกชนในเชิงจิตวิทยา จึงจะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อการก่อสร้าง บางรายอาจต้องล้มเลิกโครงการไป กลายเป็นการสร้างปัญหามากกว่าการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง  ความหวังที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงไม่เป็นจริง

อ่าน 2,152 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved