ดร.โสภณ ชี้ให้เห็นถึงสินค้าที่จะขายดีที่น่าจะพัฒนาต่อไป และสินค้าที่ขายไม่ดีที่ควรระวัง ทั้งนี้แยกตามทำเล ประเภท และระดับราคา

          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผลการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัย 1,600 โครงการทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จนสามารถชี้ให้เห็นได้ชัดว่าทำเลใด ประเภทใด และระดับราคาใดที่ขายดีในปี 2558 และเชื่อว่าจะขายดีต่อไปในปี 2559 ด้วย และในทางตรงกันข้ามสินค้าที่ขายไม่ดี และไม่ควรพัฒนาในปี 2559 เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน และผู้ซื้อบ้าน

          สำหรับสินค้าที่ขายดีและน่าจะพัฒนาในปี 2559 สินค้าเหล่านี้จะขายหมดได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน หรือบางส่วนอาจจะใช้ระยะเวลาสั้นกว่านี้ สินค้าเหล่านี้ได้แก่
          อันดับที่ 1 ทำเล D4: ลาดปลาเค้า-มัยลาภ ห้องชุดราคา 1.001-2.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 59.4% หรือขายได้มากกว่าครึ่งต่อเดือน คงเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมสูงมาก
          อันดับที่ 2 ทำเล F3: โชคชัย 4 ห้องชุดราคา 1.001-2.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 45.7% ขายได้เกือบครึ่งต่อเดือน คงเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมสูงมาก
          อันดับที่ 3 ทำเล F1 : วิภาวดี-รัชดา ห้องชุดราคา 10.001-20.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 42.1% ขายได้เกือบครึ่งต่อเดือน คงเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยมสูงมาก
          อันดับที่ 4 ทำเล N4 : บางบัวทอง ห้องชุดราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 39.9% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสามต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยม
          อันดับที่ 5 ทำเล E7 : สุขาภิบาล 2,3 ทาวน์เฮ้าส์ราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 37.4% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสามต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยม
          อันดับที่ 6 ทำเล I4 : ยานนาวา-สีลม ห้องชุดราคา 2.001-3.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 33.3% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสามต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นสินค้าที่เป็นที่นิยม
          อันดับที่ 7 ทำเล H2 : แบริ่ง-วัดด่าน ห้องชุดราคา 1.001-2.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 29.0% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 8 ทำเล H1 : บางนา-ตราด กม.1-10 ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2.001-3.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 27.8% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 9 ทำเล L3 : บางพลัด ห้องชุดราคา 2.001-3.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 27.6% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 10 ทำเล F1 : วิภาวดี-รัชดา ห้องชุดราคา 5.001-10.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 25.4% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 11 ทำเล D6 : นวมินทร์ ทาวน์เฮ้าส์ราคา 2.001-3.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 25.0% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 12 ทำเล G2 : พัฒนาการ บ้านแฝดราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 24.0% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 13 ทำเล C2 : ติวานนท์-กรุงเทพ นนท์ ทาวน์เฮ้าส์ราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 23.2% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในสี่ของอุปทานเกิดใหม่ แสดงว่าจะขายหมดภายในเวลา 4-5 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 14 ทำเล B4 : ชินเขต-ท่าทราย ทาวน์เฮ้าส์ราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 21.9% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 15 ทำเล K2 : เอกชัย-บางบอน บ้านแฝดราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 20.9% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 16 ทำเล F4 : ลาดพร้าว 91-บางกะปิ ห้องชุดราคา 1.001-2.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 20.7% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 17 ทำเล L1 : คลองสาน ห้องชุดราคา >20.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 19.9% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 18 ทำเล G5 : ลาดกระบัง ทาวน์เฮ้าส์ราคา 5.001-10.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 19.4% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 19 ทำเล I4 : ยานนาวา-สีลม ห้องชุดราคา 3.001-5.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 18.9% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น
          อันดับที่ 20 ทำเล I2 : ปทุมวัน ห้องชุดราคา 10.001-20.000 ล้านบาท อัตราการขายได้ต่อเดือน 18.4% หรือขายได้ประมาณหนึ่งในห้าของอุปทานเกิดใหม่ในปี 2558 และคาดว่าจะสามารถขายหมดจบโครงการภายในเวลา 5-6 เดือนเท่านั้น