สิ่งที่ ดร.โสภณ อยากส่งข่าวสารถึงทีมเศรษฐกิจรัฐบาลประยุทธ์ก็คือยังมีอุปทานรอเปิดใหม่อีก 334 โครงการ แสดงว่าไม่มีภาวะขาดแคลนที่อยู่อาศัย รัฐบาล "อย่าจุ้น" ตลาดที่อยู่อาศัย
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยว่าจากฐานข้อมูลสะสมพบว่า ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รอเปิดตัวอยู่อีกถึง 334 โครงการ โดยแยกออกเป็น
ประเภท จำนวนโครงการ %
บ้านเดี่ยว 76 23%
บ้านแฝด 1 0%
ทาวน์เฮาส์ 60 18%
อาคารชุด 197 59%
รวม 334 100%
จะสังเกตได้ว่า ห้องชุดพักอาศัยในย่านใจกลางเมือง ยังมีรอเปิดตัวอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ส่วนทาวน์เฮาส์ กระจายตัวอยู่รอบกลาง ๆ และบ้านเดี่ยวจะอยู่ด้านนอกของเมือง ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินจำเป็นต้องรู้ข้อมูลในรายละเอียดเหล่านี้เพื่อจะได้ทราบว่า ยังจะมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดอีกเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใดในแต่ละทำเล เพื่อจะสามารถเตรียมตัวในระหว่างการแข่งขันได้
อย่างไรก็ตามจำนวนโครงการทยอยลดลงไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้แสดงว่าได้ทยอยเปิดตัวโครงการกันมากแล้ว ดร.โสภณ เชื่อว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2559 นี้จะมีไม่เกิน 400 โครงการ ดังนั้นหากโครงการที่เตรียมตัวเปิดอยู่นี้ ทยอยกันเปิดใหม่หมด ก็จะไม่เหลือโครงการใหม่อีกเลย แต่อย่างไรก็ตามหากมีการทยอยเปิดตัว ก็จะเริ่มมีโครงการใหม่ ๆ เข้ามาทดแทนอยู่ดี
การที่ยังมีโครงการใหม่ ๆ รอเข้ามาถึง 334 โครงการนี้ แสดงให้เห็นว่า อุปทานที่อยู่อาศัยยังมีอยู่อย่างเหลือเฟือ และจะทยอยเปิดตัวตามอุปสงค์ ไม่มีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ไม่มีปัญหาการที่บ้านขึ้นราคา ไม่มีใครบ่นว่าบ้านราคาแพงเกินไป ซื้อไม่ไหว ดังนั้นข้อมูลนี้จึงชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรที่จะสร้างบ้านประชารัฐเพราะจะทำให้เกิดปัญหาการเพิ่มอุปทานเกินความจำเป็นแล้ว ยังอาจเป็นการทำลายธุรกิจพัฒนาที่ดิน โดยเฉพาะพวกวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยการที่รัฐบาลสมคบกับผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ไม่กี่รายนั่นเอง
รัฐบาลพึงนำเงินไปพัฒนาประเทศในทางอื่น จะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่านี้