ตั้งแต่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ "อัศวินม้าขาว" ด้านเศรษฐกิจเข้ามาช่วยพยุงรัฐนาวาของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คิดทำ "บ้านประชารัฐ" หรือบ้านคนจน แต่ประเด็นหนึ่งที่ ดร.โสภณ อยากบอกก็คือการคิดผิดๆ แทนที่จะส่งเสริมให้นักพัฒนาที่ดิน SMEs ช่วยกันทำงาน กลับไปสมคบกับรายใหญ่ที่มีกำไรดีอยู่แล้ว อย่างนี้ช่วยเหลือหรือช่วยเถือประเทศชาติ!
หนังสือ Housing Enabling Markets to Work ของธนาคารโลก Download ฟรีที่: bit.ly/1UDBEsG
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่าจากประสบการณ์ที่เคยทำงานให้ธนาคารโลกและองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานนั้น พบว่า ในวงการที่อยู่อาศัยต่างสรุปได้ตั้งแต่ปี 2536 แล้วว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืนนั้นอยู่ที่การให้กลไกตลาดดำเนินการเอง ไม่ใช่รัฐเข้าไปแทรกแซงด้วยการรับเหมาทำแทน
อย่างในกรณีประเทศไทยในขณะนี้ ไม่มีปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ไม่มีปัญหาว่าราคาที่อยู่อาศัยแพงเกินกว่าที่จะขายได้ และคงไม่มีปัญหานี้ไปอีกนาน แต่อาจมีปัญหาในด้านการมีอุปทานล้นเกินในอนาคตด้วยซ้ำไป แต่รัฐบาลโดย ดร.สมคิด กลับยังคิดแบบเดิม ๆ ที่คิดว่าการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ กลับคุยกันกับแต่เหล่าผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ มา "แบ่งเค้ก" ทำโครงการ "บ้านประชารัฐ"
บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เหล่านี้ได้กำไรสุทธิกันปีละประมาณ 15-30% ของรายได้อยู่แล้ว ทำการขายที่อยู่อาศัรยตามปกติก็ได้กำไรดี มีโบนัสกันประมาณ 8-22 เดือนต่อปี รัฐบาลกลับยังไปหารายได้ให้พวกเขาเพิ่มเติมมาทำบ้านประชารัฐเสียอีก ทำไปแล้วก็ใช่ว่าจะมีคนซื้อจริง อย่างกรณีบ้านเอื้ออาทรที่ทำมา ก็ปรากฏว่าคนซื้อมีน้อย ซื้อไปแล้วตอนนี้ก็ปล่อยเช่ากันมาก คนที่ซื้ออยู่พอครบกำหนด 5 ปี ก็ย้ายออกไปราวครึ่งหนึ่ง บางส่วนก็ย้ายออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
แทนที่รัฐบาลจะส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการจัดหาที่อยู่อาศัย กลับไปส่งเสริม ค้ำชูรายใหญ่ๆ อย่างนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ดร.โสภณ ให้ข้อสังเกตส่งท้ายว่าทีมเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด มักจะใช้นโยบายให้ชาวบ้าน "กินน้ำใต้ศอก" รายใหญ่ ๆ ค้ำชูรายใหญ่ ๆ ให้สร้างที่อยู่อาศัย หรือไปสร้างถนนหนทางคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าสวนยาง ไร่นา เป็นการเกื้อหนุนนายทุนผู้รับเหมา โดยหวังลมๆ แล้งๆ ว่าเศษเงินจะตกถึงมือชาวบ้านเป็นค่าแรงหรืออื่นใดบ้าง
การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จึงจะทำให้เกิดการ "รวยกระจุก จนกระจาย" มากยิ่งขึ้นต่างหาก