กอบกาญจน์ดึงนักท่องเที่ยวมาช่วยเศรษฐกิจไทยไม่ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเท่าที่ควร การท่องเที่ยวยังช่วยอะไรไทยไม่ได้มาก รากเหง้าของปัญหาอยู่ที่ไหน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ได้นำข้อมูลของกรมการท่องเที่ยวมาวิเคราะห์ โดยในเบื้องต้นได้ประมาณการว่า จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2559 โดยรวมน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 36.541 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 29.881 ล้านคนอยู่ 22% ทั้งนี้โดยนำตัวเลขจากข้อมูล 2 เดือนแรกของปี 2559 มาประมาณการให้เป็นข้อมูลทั้งปี
อย่างไรก็ตามการที่ตัวเลขอัตราการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงกว่าอัตราเพิ่มของนักท่องเที่ยวในปี 2555 และ 2556 นั้น เป็นเพราะการฟื้นคืนภายหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2556 เป็นต้นมาจนถึงช่วงรัฐประหาร และการประกาศกฎอัยการศึกในภายหลังจากนั้น แต่ต่อมาได้รับการผ่อนคลายลง ที่สำคัญยังมีการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยโดยไม่ต้องมีการทำวีซา
หากนำสถิติการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลอดช่วงปี 2554-2556 มาประมาณการแล้ว หากไม่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในปี 2557 นักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มเป็น 31.190 ล้านคนแทนที่จะเป็นแค่ 24.810 ล้านคนไปแล้ว และในปี 2558 หากอัตราเพิ่มของนักท่องเที่ยวยังเท่าเดิม ก็จะกลายเป็น 36.646 ล้านคน ส่วนในปี 2559 ควรเป็น 43.056 ล้านคนเมื่อลบจำนวนนักท่องเที่ยวที่ควรจะเป็นกับจำนวนที่เป็นจริง ก็แสดงให้เห็นว่า การเกิดความขัดแย้งภายในประเทศ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา (2557 และ 2559) ถึง 19.66 ล้านคน
ในทำนองเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงจำนวนเม็ดเงินที่ได้จากการท่องเที่ยวนั้น เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในปี 2557 น่าจะเป็น 1,505,386 ล้านบาท แทนที่จะเป็นแค่ 1,172,798 ล้านบาท และเม็ดเงินในปี 2558 น่าจะเป็น 1,877,311 ล้านบาท แทนที่จะเป็น 1,090,015 ล้านบาท นี่แสดงว่าความไม่สงบและรัฐประหารที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปถึง -1,992,623 ล้านบาทในช่วงปี 2557-2559 ความสูญเสียเหล่านี้ประเทศชาติและประชาชนโดยรวมเป็นผู้แบกรับภาระไป ทำให้ประเทศคู่แข่งที่ด้อยกว่าเรา เข้าใกล้คู่แข่งเช่นไทยมากขึ้น ส่งผลเสียต่อประเทศชาติในการแย่งชิงลูกค้านักท่องเที่ยวในระยะยาวของประเทศไทย
ทุกฝ่ายจึงควรจะสร้างความปรองดองกันอย่างแท้จริง ไม่ใช่อยากปรองดองยามฝ่ายตนทำท่าจะแพ้ หรือไม่อยากปรองดองยามฝ่ายตนมีชัย ทุกฝ่ายไม่ควรปล่อยให้เกิดสถานการณ์ที่จะมุ่งทำลายล้าง กีดกันหรือกระทั่งกำจัดศัตรูทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามโดยไม่นำพาต่อความเสียหายของประเทศชาติ ในหลายประเทศคนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณยังอยู่ร่วมกันอย่างส้นติได้ แต่คนไทย-พุทธส่วนใหญ่ด้วยกันแท้ ๆ กลับตั้งแง่ปรองดองกันอยู่ใย
ประเทศไทยควรมีการเลือกตั้งอย่างยุติธรรมและโดยเร็วตามที่ คสช.และรัฐบาลให้ความกรุณาประกาศไว้แต่แรก ซึ่งจะทำให้บรรยากาศต่าง ๆ ดีขึ้น นักท่องเที่ยวในประเทศตะวันตกจะเข้ามามากขึ้น ลำพังการอาศัยนักท่องเที่ยวจีนที่ใช้จ่ายน้อยกว่า ย่อมไม่สามารถทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง