บางครั้งข่าวคราวในหน้าหนังสือพิมพ์ อาจสร้างความสับสน ทำให้ผู้ซื้อบ้าน นักลงทุน สถาบันการเงิน ส่วนราชการวางแผนการซื้อบ้าน การบริหารสินเชื่อหรือการวางแผนการพัฒนาประเทศผิดพลาด เช่นกรณีการรายงานข่าวภาวะตลาดที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ว่าเหลืออยู่ไม่มาก และไม่น่าเป็นห่วง เป็นต้น ทุกฝ่ายจึงพึงสังวรกับการเสพข่าว
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่ดำเนินการมานานที่สุดตั้งแต่ปี 2534 และสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยเชียงใหม่มาตั้งแต่ปี 2537 โดยดำเนินการอย่างเป็นกลาง ไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาเป็นกรรมการศูนย์ฯ เพื่อล่วงรู้ข้อมูลก่อน เปิดเผยว่าข่าวสารในหน้าหนังสือพิมพ์อาจคลาดเคลื่อน
1. จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายในเชียงใหม่ ไม่ได้มีเพียง 7,050 หน่วย
2. สถานการณ์ตลาดค่อนข้างน่าเป็นห่วง ไม่ใช่ ไม่น่าเป็นห่วงดังที่เข้าใจผิด
จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ณ สิ้นปี 2558 พบว่า
1. โครงการถึง 400 แห่ง รวมหน่วยขาย 55,000 หน่วย รวมมูลค่า 110,000 หน่วย หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าในเขตกรุงเทพมหานครที่ราคาเฉลี่ย 3.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ขายแล้ว 42,000 หน่วย เหลือขาย 13,000 หน่วย หรือมากกว่าที่ออกข่าวกันถึงเท่าตัว
2. มีการเปิดตัวขายใหม่เพียง 4,000 หน่วยเท่านั้น หรือหน่วยขายใหม่มีราคาเฉลี่ย 2.966 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยรวม แสดงว่าตลาดเคลื่อนย้ายไปสู่ตลาดที่มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากประชาชนทั่วไปมีฐานะทางเศรษฐกิจตกต่ำลง แต่ผู้มีรายได้สูงยังมีกำลังซื้อ กรณีนี้คล้าย ๆ กับในเขตกรุงเทพมหานคร ที่บ้านและห้องชุดราคาสูงกลับขายดีกว่าที่มีราคาต่ำ
3. ที่สำคัญในรอบปี 2558 ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่สามารถขายหน่วยขายที่อยู่อาศัยได้เพียง 5,000 หน่วย โดยขายในราคาเฉลี่ย 2.965 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาเฉลี่ยของบ้านในตลาดตามข้อแรก อันเป็นการยืนยันว่าตลาดบนมีศักยภาพสูงกว่านั่นเอง
4. การที่ในปี 2558 มีการเปิดขายจำนวนน้อย (4,000 หน่วย) ขายได้จำนวนน้อย (5,000 หน่วย) แต่เหลือขายอยู่มากถึง 13,000 หน่วยนั้น แสดงให้เห็นภาวะตลาดที่ค่อนข้างตึงตัวและน่าห่วงใจ ดังนั้นการลงทุนต่าง ๆ จึงพึงสังวรไว้เป็นพิเศษ
อนึ่งในจำนวนที่ขายได้ 5,000 หน่วยในปี 2558 นั้น แยกเป็น บ้านเดี่ยว 39% บ้านแฝด 7% ทาวน์เฮาส์ 7% ตึกแถว 9% และ ห้องชุด 37% โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ราคา 1-2 ล้านบาท และห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท เป็นตลาดหลัก หากวิเคราะห์ในรายละเอียดจะพบว่า ในเขตอำเภอเมือง สินค้าที่ขายได้มากที่สุดกลับเป็นห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท (ขายได้ 700 หน่วยในปี 2558) ในอำเภอสันทราย เน้นบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท (130 หน่วย) ในอำเภอสันกำแพง เน้นขายบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท เป็นต้น
ดร.โสภณ เสนอให้ผู้สนใจตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริงกับศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ก่อนการลงทุน โดยดูข้อมูลเบื้องต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ "AREA แถลง" ในเว็บไซต์ www.area.co.th