สิ่งที่ รมต.กอบกาญจน์อาจไม่ได้บอกก็คือ การที่นักท่องเที่ยวเข้ามามากมายในปี 2558 ส่วนมากเป็นเพราะนักท่องเที่ยวจีน ที่มาใช้จ่ายเงินไม่มากเท่านักท่องเที่ยวยุโรปที่หดตัวลงในช่วงที่ผ่านมา หากประเทศสงบสุขจากการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ก็จะนำพาให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น
ที่มาของภาพประกอบ: www.dailynews.co.th/images/900318?s=750x500
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ได้วิเคราะห์ตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพื่อประโยชน์ของทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชน และสาธารณชนไว้ดังนี้:
ตารางที่ 1: จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทย พ.ศ.2556-9 | ||||||
กลุ่มประเทศ | 2556 | 2557 | 2558 | 2556-7 | 2557-8 | 2558-9* |
โดยรวม | 26.5 | 24.8 | 29.9 | -6.50% | 20.40% | 14.10% |
จีน | 4.6 | 4.6 | 7.9 | -0.10% | 71.30% | 27.30% |
ยุโรป | 6.3 | 6 | 5.6 | -4.40% | -6.60% | 8.90% |
สหรัฐอเมริกา | 1.2 | 1 | 1.2 | -10.10% | 17.80% | 13.80% |
อื่นๆ | 14.4 | 13.1 | 15.1 | -9.30% | 15.10% | 9.20% |
2558-9* เฉพาะตัวเลข 4 เดือนแรก ที่มา: กรมการท่องเที่ยว http://bit.ly/24aHjbd |
1. เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองจนนำไปสู่รัฐประหารนั้น ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวลงถึง 6.5% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา และกลุ่มประเทศอื่นๆ มาน้อยลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามกลุ่มที่แทบไม่หดตัวเลยก็คือนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นเพราะตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศได้เป็นระยะเวลา 15 วัน (http://bit.ly/27UUFwX)
2. ในปี 2558 ที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าปี 2557 ถึง 20.4% นั้นปรากฏว่าเป็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนถึง 71.3% จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังลดลง 6.6% นักท่องเที่ยวจากส่วนอื่น ๆ ก็เพิ่งเริ่มเข้ามาใหม่
3. ในช่วง 4 เดือนแรกปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นลดเหลือ 14.1% ทั้งนี้เพราะการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนที่แห่เข้ามาในช่วงก่อนจนฐานของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสูงนั้น ก็เพิ่มในปี 2559 เพียง 27.3% เท่านั้น แม้สัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวยุโรปจะไม่ติดลบแล้ว แต่อัตราเพิ่มจากทั่วโลกกลับลดลง
ตารางที่ 2: รายได้จากการท่องเที่ยวปี 2558 | |||
กลุ่มประเทศ | ล้านบาท | สัดส่วน | เปลี่ยนแปลง |
รวม | 706,559.26 | 100% | 31.40% |
จีน | 188,776.88 | 27% | 135.50% |
ยุโรป | 199,156.83 | 28% | -6.70% |
สหรัฐอเมริกา | 40,436.23 | 6% | 12.40% |
อื่นๆ | 278,189.32 | 39% | 33.60% |
ที่มา: กรมการท่องเที่ยว http://bit.ly/24aHjbd |
4. ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนจะมีจำนวนมหาศาลกว่ายุโรป แต่รายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวมกลับต่ำกว่า แม้นักท่องเที่ยวจีนจะใช้จ่ายต่อวันมากกว่า แต่อยู่ระยะสั้น และมากับทัวร์เป็นส่วนใหญ่ รายได้จึงแทบไม่กระเด็นไปจากกลุ่มนักธุรกิจจีนที่มาทำธุรกิจการท่องเที่ยวในไทย จะเห็นได้ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวในปี 2558 ที่นักท่องเที่ยวจีนมามากที่สุดถึง 27% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด นำหน้านักท่องเที่ยวจากยุโรปที่มาเพียง 19% แต่นักท่องเที่ยวยุโรปกลับทำรายได้ถึง 199,156.83 ล้านบาท หรือ 28% ของรายได้รวมที่ 706,559.26 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวจีนทำรายได้ได้ 188,776.88 ล้านบาท หรือ 27% ของทั้งหมด
ประเทศไทยจึงควรกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยดูได้จากกรณีประเทศเมียนมาที่หลังจากมีการเลือกตั้งเป็นธรรม ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะพุ่งขึ้นอีก 25% ในปี 2559 นี้ (http://bit.ly/1TG7G9h) คาดว่าในปีหน้า การท่องเที่ยวของประเทศไทยน่าจะกระเตื้องยิ่งขึ้น (หากมีการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย)