ตามที่มีข่าวว่า "คลังมั่นใจชงเก็บภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง! บ้านราคาต่ำกว่า 50 ล้านรอด" ดร.โสภณ พรโชคชัย ให้ความเห็นว่า นี่เป็นเรื่องตลก (ร้าย) แห่งปี เพราะบ้านทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีราคาเกิน 50 ล้านบาทนั้น มีเพียง 1,351 หน่วยเท่านั้น จะคุ้มค่าเก็บไหม เก็บปลอม ๆ อย่าเก็บเสียเลยดีกว่าไหม
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่า ตามเนื้อข่าว (http://bit.ly/1PdNfJz) จะจัดเก็บเฉพาะบ้านที่มีราคาเกินกว่า 50 ล้านบาท และบ้านหลังที่ 2 หรือมากกว่านั้น โดยบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 50 ล้านบาทจะได้รับการยกเว้นไม่เก็บภาษี จากฐานข้อมูลของศูนย์ฯ ที่เก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2537 หรือ 22 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีบ้านที่มีราคาเกิน 50 ล้านบาทในตลาดอยู่เพียง 1,351 หน่วย แยกเป็นบ้านเดี่ยว 572 หน่วย ห้องชุด 764 หน่วย และอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามจำนวนที่อยู่อาศัยทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงเวลาดังกล่าวมี 1,8490,789 หน่วย จากทั้งหมดประมาณ 4.7 ล้านหน่วยที่มีอยู่ทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เท่ากับมีบ้านราคาเกิน 50 ล้านบาทเพียง 0.007% เท่านั้น การจัดเก็บอาจมีต้นทุนมากกว่าภาษีที่จัดเก็บได้ต่างหาก ยิ่งกว่านั้นหากคิดตามราคาประเมินทางราชการที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายจริง ก็อาจเหลือบ้านราคาเกิน 50 ล้านบาท อยู่น้อยกว่านี้อีก
การนี้ชี้ให้เห็นว่าชนชั้นนำ ชนชั้นสูงไม่ยอมเสียภาษี แต่ก่อนมีนักการเมือง เราอาจบอกว่านักการเมืองไม่ต้องการเสียภาษี แต่ปัจจุบันไม่มีนักการเมืองแล้ว ในยุคข้าราชการประจำเป็นใหญ่ เราก็ยังไม่พยายามเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากคนรวย ๆ คงเป็นเพราะข้าราชการประจำรวย ๆ ทั้งที่ยังรับราชการอยู่และที่เกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ ไม่ต้องการเสียภาษีนั่นเอง
แต่ในความเป็นจริงสำหรับคนจน เช่น ประชาชนคนหนึ่งมีรถจักรยานยนต์เก่า ๆ คันละ 10,000 บาท ก็ยังต้องเสียภาษีประจำปี 120 บาท หรือราว 1% ของมูลค่ารถ แต่การมีบ้านและที่ดินกลับพยายามยกเว้นต่าง ๆ นานา เพื่อไม่อยากให้เสียภาษีทั้งที่ภาษีนี้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมโดยตรง
การไม่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะทำให้รัฐบาลหันไปเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นภาษีทางอ้อมเพื่อเพิ่มรายได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่ประชาชนทุกคนต้องเสียโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการซื้อสินค้าต่าง ๆ ในขณะที่คนรวย ๆ มีโอกาสหลีกเลี่ยงได้มากกว่า ยิ่งกว่านั้นภาษีมูลค่าเพิ่มยังเป็นภาษีที่ส่งเข้าส่วนกลางในขณะที่ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีที่ใช้ในท้องถิ่น