ดร.โสภณ "จวก" ดร.สมคิดที่เพ้อฝันเรื่องเศรษฐกิจ กลัวพาประเทศลงเหว จากมาตรการที่ผิดกาละเทศะที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้

          เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2559 ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา "เจ้าสัว GenX เปิดมุมคิดพิชิตเศรษฐกิจปี 2559" ซึ่งจัดโดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ดร.โสภณ ขอ "มองต่างมุม" กับ ดร.สมคิด ดังนี้:

          1. ดร.สมคิด: "ประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องมีสแตนดาร์ดเดียว อนาคตค่อยปรับตัวกัน"

          ดร.โสภณ มองว่า ทุกวันนี้เป็นการถอยหลังเข้าคลอง จากที่เราต่อสู้ด้วยชีวิตให้มีการเลือกตั้งนายกฯ โดยตรงในปี 2535 (สมัย พล.อ.สุจินดา) มาตอนนี้กลับจะมีนายกฯ คนนอกได้ สว.ก็มาจากการแต่งตั้ง องค์กรอิสระ ก็ไม่ได้เป็นอิสระ ลักษณะนี้ เรากำลังสลับตำแหน่งกับเมียนมาในอดีตหรือไม่

          2. ดร.สมคิด: "ขณะที่หลายๆ ประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น อาเซียน รวมไปถึงรัสเซีย ที่ยืนเคียงข้างกับไทยมาตลอด"

          ดร.โสภณ มองว่า จักรวรรดินิยมจีน และจักรวรรดินิยมรัสเซีย คงอยากทำการค้าขาย (อาวุธ) เพื่อเอากำไรสถานเดียว โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด ๆ แต่ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ไม่ยอมรับไทยที่ตกอยู่ในภาวะเช่นนี้ต่างหาก

          3. ดร.สมคิด: การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น 1 ปีจากนี้ (ไม่เกินปี 2560 หรือต้นปี 2561)

          ดร.โสภณ มองว่า เมื่อมีการเลือกตั้งช้าออกไปแบบนี้ ก็เท่ากับประเทศยังถูก "ดอง" ไว้อย่างนี้ โอกาสที่จะเติบโตเช่นประเทศอื่นที่เป็นประชาธิปไตย จึงมีน้อยกว่า ดูอย่างเมียนมาที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประเทศก็เจริญผิดหูผิดตาทันที

          4. ดร.สมคิด: เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องของจิตวิทยามวลชน . . . แม้ว่าโลกจะยังไม่ดีก็ตาม"

          ดร.โสภณ มองว่า การมองว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องจิตวิทยามวลชน ก็คงได้แต่ "ปั้น" ตัวเลขปลอบใจไปวันๆ หนึ่งหรือไม่

          5. ดร.สมคิด: "ต่างประเทศทำนายว่าเศรษฐกิจ (ไทย) จะเติบโตระดับ 3%"

          ดร.โสภณ มองว่า ข้อนี้ ดร.สมคิดคิดผิด เศรษฐกิจโลกเติบโตดีกว่าเศรษฐกิจไทย ยิ่งเศรษฐกิจอาเซียนก็เติบโตดีกว่าไทยมาก ที่เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ไม่ใช่เพราะโลก แต่เพราะประเทศไทยเราไม่เป็นที่ยอมรับทางการเมืองต่างหาก

          6. ดร.สมคิด: "เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ . . . ช่วยประชาชนผู้มีรายได้น้อยผ่านกลไกแบงก์รัฐ"

          ดร.โสภณ มองว่า การลงทุนของภาครัฐในชนบท ยังมีข่าวการหักหัวคิว (ทุจริต) 20-30% เหมือนเดิม (ดูกรณีผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล (http://bit.ly/2aSrvuN) ทั้งที่ไม่มีนักการเมืองมาราว 2.5 ปีแล้ว แสดงว่าการทุจริตยังอยู่ตามปกติ และไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลที่แล้วใช่หรือไม่

          7. ดร.สมคิด: "ถึงเวลาแล้วที่ภาคเอกชน ไม่ใช่แค่ชื่นชมอย่างเดียว ต้องลงทุนด้วย . . . ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"

          ดร.โสภณ มองว่า คำชื่นชมคงมาจาก "ขุนพลอยพยัก" เท่านั้น สังคมยังมีความกังวลต่อแนวทางการบริหารเศรษฐกิจชาติของท่านมากกว่า  ยิ่งให้ไปลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ดร.สมคิดควรมีโปรแกรมประกันชีวิตผู้คิดไปลงทุนจากกรณีก่อการร้ายด้วย จะดียิ่ง

          8. ดร.สมคิด: "โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของประเทศ ก็ยังเดินหน้า อาทิ เรื่องการลงทุนรถไฟฟ้า ทุกสายจะต้องผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ภายในปีนี้"

          ดร.โสภณ มองว่า รัฐบาลก็ตั้งความหวังมาแบบนี้ แต่นี่ผ่านมา 2.5 ปีแล้ว ยังผลักดันอะไรไม่ออก ที่เสร็จแล้วเช่นสายสีม่วง ก็เป็นผลงานตั้งแต่สมัยทักษิณ เส้นที่ง่ายที่สุด เช่น รถไฟฟ้าระยอง ไประเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ก็ยังต้องเวนคืนอีกมาก ยังเชื่อมเฉพาะสุวรรณภูมิ-ระยอง ยังไม่ได้เข้าเมือง ที่ว่าจะเสร็จในปี 2564 ก็ยังไม่แน่ ยังอาจจะล่าช้าไปอีกได้แทบทุกสาย

          9. ดร.สมคิด: "หัวใจที่จะดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนก็อยู่ที่ความมี 'ธรรมาภิบาล'"

          ดร.โสภณ มองว่า โดยหลักการแล้วเห็นด้วย แต่ในความเป็นจริง อำนาจจากรัฐประหารที่ใช้มา 2.5 ปีแล้ว จะสร้างธรรมาภิบาลได้อย่างไร ในเมื่อสภาต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นก็ล้วนแต่เป็นคนที่มาจากพวกที่ช่วยกันต่อสู้นอกสภาอยู่ข้างถนนเป็นหลัก หรือไม่ก็เป็นข้าราชการโดยเฉพาะทหาร และยังขาดการตรวจสอบเพราะไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน แบบนี้แล้วธรรมาภิบาลที่แท้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

          การมองต่างมุมกับ ดร.สมคิดนี้ ไม่ใช่จะไม่ให้กำลังใจในการทำงานของท่าน ดร.โสภณ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว ให้กำลังใจกับคนทำงานเพื่อประเทศเต็มที่ แต่ ดร.โสภณ เห็นว่า โอกาสที่ ดร.สมคิดจะนำพาเศรษฐกิจไปสู่ความเจริญจริง ๆ ยังมีโอกาสน้อยมาก เกรงจะเป็นการ "เพ้อฝัน" แต่หาก ดร.โสภณ มองผิดไป ดร.โสภณ ก็จะดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเท่ากับชาติได้เจริญตามที่ ดร.สมคิดวาดหวังไว้ แต่หากเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็คงแย่

          ทุกฝ่ายจึงต้องเผื่อใจไว้ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ ดร.สมคิด "คุย"