ดร.โสภณ วอนสังคมและรัฐบาล เห็นแก่ส่วนรวม อย่าเห็นแก่ชาวบ้าน 16 ครัวเรือนที่ดื้อแพ่งไม่ยอมย้ายออกจากป้อมมหากาฬ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่า ณ ปัจจุบัน มีชาวบ้านเพียง 16 หลังคาเรือนที่ไม่ยอมย้ายออก จากทั้งหมด 49 หลังคาเรือน โดยมีบ้านร้างอยู่ 26 หลังคาเรือน และยังมีชาวบ้านอีกจำนวน 7 ครัวเรือนที่ยินดีย้ายออกทุกเมื่อที่ทาง กทม.มาสั่งให้รื้อย้าย (http://bit.ly/2aYm8Eh)
ชาวบ้านผู้ที่ไปฟ้อง กทม. ต่อศาลปกครองตั้งแต่ปี 2546 นั้น ได้ "เตะถ่วง" อยู่ฟรีมาอีก 13 ปีจนถึงวันนี้ โดยผู้ฟ้อง 104 ราย เป็นผู้เป็นเจ้าของอาคารจริงเพียง 14 ราย ที่เหลือไม่ใช่ เป็นเพียงผู้เช่าเท่านั้น แต่หวังได้สิทธิด้วย ศาลปกครองได้ยกฟ้อง ต่อมายังมีชาวบ้านที่เหลืออีก 91 รายอุทธรณ์ต่อและได้รับคำพิพากษายกฟ้องอีกในปี 2547 แต่ชาวบ้านที่เหลือก็ยังไม่ยอมไป ทั้งที่รับค่าเวนคืนไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ (http://bit.ly/2b3YYfR)
ดร.โสภณ เคยสำรวจชุมชนแออัดโดยค้นพบจำนวน 1,020 แห่งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2528 และยังสำรวจชุมชนแออัดในทุกจังหวัดทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย และแม้ ดร.โสภณ จะช่วยผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน และส่วนราชการวางแผนการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย แต่ก็ไม่เคยไปข้องแวะกับการไล่รื้อชุมชนใดๆ
อย่างไรก็ตามในกรณีชุมชนป้อมพระกาฬนี้ ทางราชการไม่ควรที่จะไปคำนึงถึงผลประโยชน์ (อันมิชอบ) ของชาวบ้านที่ยัง "บุกรุก" อยู่เช่นนี้ ควรเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนโดยรวมในอันที่จะได้มีสวนสาธารณะขนาดย่อมไว้ในบริเวณนี้ โดยเฉพาะเป็นบริเวณรอบแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ กรณีนี้เป็นเสมือนชาวบ้าน "รังแก" รัฐบาล สังคมและโบราณสถานโดยตรง เพราะไม่ยอมโยกย้ายตามที่สมควรทั้งที่ได้รับค่าเวนคืนแล้ว