AREA แถลง ฉบับที่ 68/2553: 9 พฤศจิกายน 2553
ลาวสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทย
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
มีนักลงทุนชาวลาวสนใจมาลงทุนในไทย และนักลงทุนไทยยังมีโอกาสการลงทุนในประเทศลาวเช่นกัน ทั้งนี้เป็นผลจากการสำรวจด้วยแบบสอบถามอย่างสั้นกับนักธุรกิจชั้นนำของลาวจำนวนเกือบ 50 ราย จากทั้งหมด 150 รายที่เข้าร่วมสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนในทรัพย์สิน ซึ่งจัดขึ้นโดย นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด สภาหอการค้าลาว และ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในวันที่ 15 ตุลาคม 2553
จากการประมวลผลสำรวจพบว่า 87% ของนักธุรกิจลาวต่างมีความเห็นว่าเศรษฐกิจลาวกำลังคึกคักเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบางส่วนอาจเห็นว่าดีขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่มีนักธุรกิจลาวรายใดเห็นว่ามีสภาพที่ไม่กระเตื้องไปกว่าปีก่อนแต่อย่างใด
มีนักธุรกิจลาวถึง 24% หรือหนึ่งในสี่สนใจเป็นอย่างยิ่งในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย ส่วนที่ไม่สนใจมีเพียง 18% หรือราวหนึ่งในห้า นอกนั้นเป็นกลุ่มที่มีความสนใจพอสมควร ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่เสนอขายในท้องตลาดเป็นสำคัญ
สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่สนใจซื้อเป็นพิเศษก็คือ อาคารชุดพักอาศัย โดยมีสัดส่วนถึง 43% ทั้งนี้คงเป็นเพราะกฎหมายไทยเปิดโอกาสให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทดังกล่าวได้ รองลงมาคือบ้านแนวราบและที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย โดยพื้นที่ที่สนใจซื้อนั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นพัทยาเป็นอันดับหนึ่ง 37% รองลงมาจึงเป็นกรุงเทพมหานคร 31%ต่อด้วยเมืองชายแดน เช่น อุดรธานีและหนองคาย 23%และนอกนั้นเป็นภูเก็ตหรือหัวหินอีก 9%
อาจกล่าวได้ว่าสินค้าอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดและบ้านแนวราบตากอากาศในพื้นที่ตากอากาศ ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้อาคารชุดพักอาศัยในกรุงเทพมหานครก็ได้รับความสนใจไม่น้อยเช่นกัน ที่สำคัญเชื่อว่านักธุรกิจเหล่านี้มีความสามารถในการซื้อค่อนข้างแน่นอนและสูง
สำหรับการไปลงทุนในลาวนั้น นักธุรกิจลาวเห็นว่าควรลงทุนในที่ดินเพื่อการพัฒนาต่าง ๆ ถึง 47% รองลงมาเป็นที่อยู่อาศัย ห้องชุด ศูนย์การค้าและนิคมอุตสาหกรรมในจำนวนที่พอ ๆ กัน อย่างไรก็ตามในลาวยังคงไม่มีอาคารชุดพักอาศัย
ทำเลในการลงทุนสำคัญที่นักธุรกิจลาวแนะนำได้แก่ พื้นที่ในกรุงเวียงจันทน์บริเวณริมแม่น้ำโขง ใจกลางกรุงเวียงจันทน์ บริเวณใกล้พระธาตุหลวง และบริเวณเส้นทางถนน450 ปี ไชยธานี ชานเมืองเวียงจันทน์ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ท่างอน บ้านฮอม สายลม สีหอม ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเวียงจันทน์ ส่วนในพื้นที่อื่นได้แก่ วังเวียง (150 กิโลเมตรจากเวียงจันทน์) สามเหลี่ยมน้ำงึมกับน้ำโขง นอกกรุงเวียงจันทน์ และหลวงพระบาง
สิ่งที่รัฐบาลลาวควรดำเนินการในด้านนโยบายต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาตินั้น นักธุรกิจลาวเห็นว่า รัฐบาลควรมีนโยบายที่ชัดเจนในการลงทุนของคนต่างชาติ โดยเปิดโอกาสต่างชาติมาลงทุนมากขึ้น ประเด็นสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การลดภาษีค่าธรรมเนียมโอนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันเก็บสูงถึงประมาณ 15-40% ซึ่งรัฐบาลลาวมุ่งสกัดการซื้อขายที่ดิน อันดับสามที่ได้รับการเสนอแนะก็คือเรื่องการพัฒนาสาธารณูปโภคของเมือง ซึ่งยังขาดแคลนโดยเฉพาะถนนสายต่าง ๆ ยังอยู่ในสภาพที่ควรปรับปรุง นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้านการสร้างระบบสินเชื่อหรือตลาดการเงินเคหะการ ซึ่งยังมีขนาดเล็กมากในลาว
โดยสรุปแล้ว คหบดีลาวหรือประเทศเพื่อนบ้านเป็นกลุ่มเป้าหมายในการซื้อทรัพย์สินในประเทศไทยทั้งในกรุงเทพมหานคร เมืองท่องเที่ยวและเมืองชายแดน อย่างไรก็ตามประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองให้ได้เสียก่อน นอกจากนี้ในประเทศลาวและประเทศอินโดจีนอื่นก็ยังมีโอกาสในการลงทุนสำหรับนักธุรกิจไทยโดยเฉพาะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ในฐานะศูนย์ข้อมูล-วิจัยและประเมินค่าทรัพย์สินที่มีฐานข้อมูลภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุด ได้รับ ISO 9001-2008 ทั้งระบบแห่งแรกในฐานะที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น และเป็นสมาชิก UN Global Compact อีกด้วย |