การกล่าวของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ มั่วแน่นอน ดร.โสภณ ยืนยัน แต่ให้เวลารัฐบาลอีก 1 ปีแน่นอน เพราะไม่มีปัญญาอะไรไปขวาง ได้แต่เสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์
ในการแถลงผลงานครบรอบ 2 ปีรัฐบาล ดร.สมคิดกล่าวว่า "เราพ้นจุดต่ำสุดแต่ฟื้นไม่เต็มที่เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี. . .ไม่ได้มั่ว. . .เชื่อใจระหว่างกัน อีกปีเดียวขอให้เชื่อรัฐบาล เราจะไม่ทำให้เสียหายจะทำให้ดีที่สุด" (http://bit.ly/2cJPNpX) ที่ ดร.โสภณ ยืนยันว่า ดร.สมคิดมั่ว ก็เพราะ
1. ดร.สมคิดไม่กล้าพูดสักคำว่า ที่บ้านเมืองเราตกต่ำ ก็เพราะรัฐประหาร ดร.โสภณ ไม่ได้ต่อต้านรัฐประหาร แต่นี่เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ ถ้าเมียนมา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกิดรัฐประหารในวันนี้ นักลงทุนก็คง "แตกรัง" จากไปเช่นกัน แต่ประเทศเหล่านี้กลับมีการเลือกตั้งอย่างเสรี มีรัฐบาลประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ประเทศชาติจึงเจริญเติบโตสวนทางเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตามในข้อนี้ บางท่านอาจอ้างถึงความจำเป็นในการทำรัฐประหาร ซึ่งก็คงต้องถกกันไปว่าจริงหรือไม่ แต่ไม่ใช่วิสัย ดร.โสภณ จะแถลงในการวิเคราะห์เศรษฐกิจนี้
2. ดร.สมคิดกล่าวว่า ที่เศรษฐกิจไทยไม่ดี ก็เพราะเศรษฐกิจโลกไม่ดี นี่ก็คือความมั่วอีกประการหนึ่ง ท่าน ดร.สมคิดอย่าได้โทษตลาดโลก เพราะอัตราการเจริญเติบโตของตลาดโลกและของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนดีกว่าไทยทั้งสิ้น (http://bit.ly/1Qm9ThW) กล่าวได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ไทยตกต่ำอยู่ประเทศเดียว
3. ท่านบอกว่าต้องนำเงินลงไปในชนบท แต่สิ่งที่ท่านทำในภาวะขณะนี้ เงินที่ได้ไปลงทุนอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลไพล่ไปทำถนน สาธารณูปโภคต่าง ๆ ในท้องถิ่น จึงทำให้เงินจม/กระจุกอยู่ที่ผู้รับเหมา บริษัทผลิตวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ไม่ใช่ชาวบ้าน ท่าน ดร.สมคิดช่วยใครแน่ ทำให้เศรษฐกิจกระจุกเฉพาะคนรวย โดยดูได้จากยอดขายรถหรูเติบโตอย่างเป็นประวัติการณ์ในปี 2558 (http://bit.ly/2czRsfw) ในขณะที่ชาวบ้านกระเป๋าแห้ง
4. สิ่งที่ท่าน ดร.สมคิดทำนั้น ทำชาติเสียหายอย่างไรบ้าง
4.1 กรณีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ท่านยกเว้นบ้านหลังแรกที่มีราคาต่ำกว่า 50 ล้านบาท จึงคงมีบ้านที่ราคาสูงกว่านี้ ให้เก็บเพียง 5,000 หน่วยทั่วประเทศ (http://bit.ly/1ZwuRBq) ทำอย่างกับไม่ต้องการเก็บภาษี ดั่งตั้งใจอุ้มคนรวย และถ้ารัฐบาลไม่มีเงิน ท่านก็คงหาข้ออ้างขึ้นแต่ภาษี VAT เท่านั้นหรือไม่
4.2 ท่านไปส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้โดยไม่อั้น นี่คือการ "ขายชาติ" หรือไม่ (http://bit.ly/2aaZNGN) ปัจจุบันต่างชาติก็สามารถซื้อ หรือเช่าที่ดินได้อยู่แล้ว ที่ผ่านมามีการให้เช่าแค่ 30 ปี เช่น เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว ก็ได้กำไรมหาศาล โทลเวย์ ทางด่วนขั้นที่ 2 รถไฟบีทีเอส ฯลฯ ก็ล้วนแต่ 30 ปีก็พอแล้ว
4.3 โครงการ Start Up ของท่านก็ได้แค่ลอกเลียนมาจากโครงการ SMEs ของทักษิณ เพียงแต่ใส่ "Digital" ให้ดูเท่ๆ แต่ภาวะในขณะนี้ "สินเชื่อทรง-หนี้เสียพุ่ง" (http://bit.ly/2aDRmFZ: 25 กค.59) แล้วจะสำเร็จได้อย่างไร ท่านอาจจัดงานเปิดตัวได้อย่างใหญ่โต แต่คงไม่ได้ผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
5. ท่านบอกว่าในระบอบการเมืองเลือกตั้งอยู่ที่การต่อรองผลประโยชน์ ซึ่งเป็นการปรามาสระบอบประชาธิปไตยโดยแท้ ในความเป็นจริง ไทยควรมีการเลือกตั้งตัวแทนของประชาชนมาบริหารทุกระดับตั้งแต่อำเภอ จังหวัด ลดราชการส่วนกลาง ตัดราชการส่วนภูมิภาค ไม่ใช่เพิ่ม/ส่ง "ขุนนาง" มากินตำแหน่งและกดหัวชาวบ้าน สิ้นเปลืองงบประมาณ ในทางตรงกันข้าม ในยุคที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ทุกอย่างมาจากการแต่งตั้ง จะไม่มีระบบเส้นสาย-โกงกินหนักข้อขึ้นหรือ ที่น่าเศร้าก็คือคนที่วันก่อนต่อสู้อยู่ข้างถนน แต่วันนี้ได้เสพสุข มีตำแหน่งลาภยศโดยไม่ต้องผ่านการเลือกตั้ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ขาดหิริโอตตัปปะดอกหรือ
ท่าน ดร.สมคิดอย่าได้ "ดรามา" ว่าต้องให้คนเชื่อมั่นจึงจะทำการสำเร็จ ในประวัติศาสตร์ผู้นำที่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายเริ่มจากการถูกปรามาสโดยไม่ต้องอ้อนวอนขอความเชื่อมั่นใดๆ ถ้าทำได้สำเร็จ คนก็ตระหนักเอง ส่วนท่านจะใช้เวลาอีก 1 ปี หรืออาจจะ 20 ปี ก็คงไม่มีใครขวางหรือกล้าไปทำอะไรท่านอยู่แล้ว เพราะท่านและนายท่านมีอำนาจ ทุกคนก็ล้วนรักตัวกลัวตาย จะเอามือเปล่าไปสู้กับศาสตราวุธได้อย่างไร
"ท่านอย่าได้เสียขวัญโดยใช่เหตุ ทำงานไปเถอะ แต่อย่าฟังแต่พวก 'ขุนพลอยพยัก' ผมก็ได้แต่แสดงความเห็นในฐานะคนห่วงใยบ้านเมืองคนหนึ่ง เพราะ 'เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน' เท่านั้น" ดร.โสภณ กล่าวในที่สุด