เมื่อไม่กี่วันก่อนที่มีการแชร์ภาพมัสยิดบนเขายายเที่ยง สังคมคงฉงนอยู่ว่าพื้นที่ป่าสงวนในชนบทอีสานเช่นนี้ พี่น้องชาวมุสลิมขึ้นไปตั้งรกรากกันเมื่อไหร่และอย่างไร และในสมัยที่มีการชุมนุมของ "เสื้อแดง" เพื่อขับไล่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีที่ครอบครองบ้านและที่ดินบนเขายายเที่ยงจนท่านยอมคืนที่ดินแก่ทางราชการ ปรากฏว่าในขณะนั้น ชาวบ้านที่อยู่บนเขายายเที่ยงได้ขึ้นป้ายดังนี้:
อย่างไรก็ตามที่ดิน ภบท.5 ไม่สามารถซื้อขายได้ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ได้ให้คำอธิบายไว้ว่า “ภบท.๕ คือใบเสร็จรับเงิน ที่ทางราชการออกให้เมื่อมีคนเสียภาษีบำรุงท้องที่ เหมือนกับเวลามีคนเขาซื้อพัดลม แล้วทางร้านออกใบเสร็จรับเงินให้ หากคนนั้นเขาเอาใบเสร็จรับเงินมาขายให้คุณ คุณจะซื้อไหม ถ้าซื้อแล้วจะได้อะไร สิ่งที่ได้ก็คือใบเสร็จรับเงิน แต่อย่างไรก็ตามคนสมัยนี้นิยมทำอะไร ๆ ที่ไม่ต้องดูกฎหมาย เขาจึงซื้อขายกันออกเกลื่อนไป แล้วก็ทึกทักเอาเองว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ดิน” {1} “เมื่อคุณซื้อที่ดินอย่างนั้นแล้ว ความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า (เมื่อรัฐมาเรียกที่ดินคืนหรือจับในฐานะบุกรุกที่ดินของรัฐ) ก็จะตกมาอยู่กับคุณ” {2} “การมีสิทธิครอบครองนั้นย่อมถูกแย่งได้ง่าย เพียงเข้ามาแย่งการครอบครองเพียงหนึ่งปี ก็เสียสิทธิครอบครองแล้ว” {3}
ส่วน ส.ป.ก. 4-01 คือเอกสารสิทธิให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 คือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ไม่อนุญาตให้ทำการซื้อขายที่ดิน หากมีการซื้อขายในขณะที่เอกสารสิทธินี้ยังมีผลอยู่จะเป็นโมฆะ แต่สามารถโอน แบ่งแยก และตกทอดทางมรดกให้แก่บุคคลในครอบครัวได้แก่ สามีภรรยา บุตร บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดา พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดา และหลาน สามารถเช่าหรือเช่าซื้อเพื่อเกษตรกรรม (ไม่อนุญาตให้เช่าเพื่อจุดประสงค์อื่น) ไม่สามารถจดทะเบียนจำนองได้ เว้นแต่เป็นโครงการของรัฐบาลที่อนุญาตให้ใช้เอกสารสิทธิเป็นประกัน สิทธิในที่ดินยังคงเป็นของรัฐ ประชาชนสามารถคืนที่ดินให้รัฐหากไม่ต้องการ และรัฐสามารถเรียกคืนที่ดินได้หากตรวจสอบพบว่าประชาชนมิได้ใช้ทำการเกษตร {4}
โดยสรุปแล้ว การเสียภาษีบำรุงท้องตามใบ ภ.บ.ท.5 นี้ไม่ใช่การแสดงกรรมสิทธิบนที่ดิน และไม่อาจซื้อขายได้ การเปลี่ยนมือที่มีขึ้นอย่างมากมายจึงผิดกฎหมาย แม้แต่ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ก็ไม่สามารถซื้อขายได้ จะยกให้เป็นที่ดินของวัดหรืออะไรก็ไม่ได้ ถ้าไม่ใช้ก็ต้องคืนทางราชการ เพื่อทางราชการจะได้ไปจัดสรรให้ผู้อื่นต่อไป จะให้กันเองไม่ได้ การซื้อที่ดินประเภทนี้มา ก็เท่ากับส่งเสริมให้ (คนขาย.) เกิดการบุกรุกทำลายป่าเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาทำกินหรือขายต่ออีก
เราควรเลิกระบบ "มือใครยาว สาวได้สาวเอา" หรือ "สิบเบี้ยใกล้มือ" จากการฉกฉวยทรัพยากรของชาติ
อ้างอิง:
{1} www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=&action=view&id=044115#q
{2} www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=&action=view&id=038685#q
{3} www.meechaithailand.com/ver1/?module=4&cateid=&action=view&id=032044#q
{4} http://bit.ly/1M3SM97
ดาวโหลดฟรี คลิก:http://www.thaiappraisal.org/thai/journal/order.php?p=publicationb20.php
หนังสือ "อย่าซื้อที่ดิน ส.ป.ก.4-01 และ ภ.บ.ท.5 ผิดกฎหมายและทำลายป่า" โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย