"ครูแพะ" ควรได้เงินชดเชย 3.1 ล้านบาท
  AREA แถลง ฉบับที่ 34/2560: วันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2560

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            ในเบื้องต้น ดร.โสภณ ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ประเมินว่า พึงจ่ายเงินแก่ "ครูแพะ" เป็นเงิน 3.1 ล้านบาท และในกรณีมีการบริจาคช่วย ก็ควรบริจาคเงินให้ราชการไป "เยียวยา" แก่ "ครูแพะ" เพื่อว่าทางราชการจะได้ไม่ใช้เงินภาษีของประชาชนมาจ่าย ส่วนผู้เกี่ยวข้องก็ควรจ่ายค่าเสียหายเช่นกัน เสียดายที่ประเทศไทยไม่มีระบบประกันวิชาชีพ

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ได้ประเมินค่าทดแทนความเสียหายที่ "ครูแพะ (รับบาป)" (ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร) ได้รับตามมาตรฐานในต่างประเทศไว้ดังนี้:

            1.   เงินทดแทนเป็นเงินสดตามจำนวนวัน/ปีที่ต้องติดคุก

            2.   การจัดหาบริการเฉพาะหน้า ได้แก่:

                  2.1 เงินช่วยเหลือในการดำรงชีพที่เปลี่ยนไปจากเดิม อาหาร และค่าเดินทาง

                  2.2 การจัดหาที่อยู่อาศัย

                  2.3 การจัดการด้านสุขภาพ ความเจ็บป่วยทางจิตใจ และบริการให้คำปรึกษา

                  2.4 การศึกษาและการพัฒนาทักษะการทำงาน

                  2.5 ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย เช่น การได้รับสิทธิต่าง ๆ คืน การลบทะเบียนประวัติอาชญากร

                  2.6 ค่าการศึกษาของบุตร เป็นต้น (http://bit.ly/2iB1MIF)

            ในด้านการจ่ายค่าทดแทนสามารถคำนวณได้ดังนี้:

            1.   กรณีเงินทดแทน

                  1.1 ตามจำนวนเดือนและปีที่สูญเสียอิสรภาพ (1.5 ปี: http://bit.ly/2iYoqrT) ทั้งนี้คิดจากเงินเดือนของครู โดยสมมติให้มีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ในระยะเวลา 1.5 ปี เป็นเงิน 900,000 บาท

                  1.2 ในกรณีที่อยู่ในเรือนจำ สภาวะแวดล้อมมีคุณภาพต่ำกว่าปกติ ลำบากกว่าการรับเบี้ยกันดาร/เบี้ยพื้นที่เสี่ยงภัย (ความมั่นคง) ที่ต้องไปอยู่ในสภาวะเช่นนี้  การอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากนี้ จึงอาจประมาณการเป็นอีก 1 เท่าหรือเท่ากับเป็นเงิน 900,000 บาท (อยู่ในสภาวะ "คนคุก" เช่นนี้โดยไม่ต้องทำงานตามปกติ กรณีนี้อาจประเมินเป็น 2-4 เท่าตัวก็ได้เพราะไม่มีใครอยากจะเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้)

                  ค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นเงิน 1,800,000 บาท หรือประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริกา มีเกือบ 20 รัฐจาก 50 รัฐที่ไม่มีระบบการจ่ายค่าทดแทนเลย แต่ในส่วนที่มีการจ่ายนั้น กลุ่มใหญ่ที่สุดจ่ายประมาณ 50,000 เหรียญสหรัฐ (http://n.pr/2is7SMS)

            2.   การจัดหาบริการเฉพาะหน้า

                  2.1 เงินช่วยเหลือในการดำรงชีพที่ไม่ได้เป็นครู โดยสมมติเช่นเดือนละ 35,000 บาท (60% ของรายได้) หลังพ้นโทษออกจากเรือนจำเป็นเวลาอีก 1.5 ปี รวมเป็นเงิน 630,000 บาท

                  2.2 ที่อยู่อาศัย (ไม่มีปัญหา ยังอยู่บ้านหลังเดิม)

                  2.3 สุขภาพ โดยควรได้รับค่าบริการการให้คำปรึกษาความเจ็บป่วยทางจิตใจ จากผู้เชี่ยวชาญเดือนละ โดยสมมติเป็นเงิน 100,000 บาท เป็นเวลา 1 เดือนทำงานของผู้เชี่ยวชาญ

                  2.4 ค่าใช้จ่ายด้านกฎหมาย โดยเฉพาะค่าทนาย ค่าเสียเวลาในการขึ้นศาล โดยสมมติมีค่าใช้จ่ายจริง ในระยะเวลา 8 ปีเช่น เป็นเงินประมาณ 300,000 บาท (ส่วนหนึ่งได้จากการขายทรัพย์เพื่อการสู้คดี)

                  2.5 ค่าการศึกษาของบุตรที่ไม่ได้รับการศึกษาไประยะหนึ่ง เช่น 1.5 ปี เมื่อกลับมาศึกษาใหม่ ย่อมทำให้โอกาสการทำงานช้าลง สามารถติดตามค่าแรงของบัณฑิตปริญญาตรีเดือนละ 15,000 บาท รวม 270,000 บาท

            รวมเป็นเงินประมาณ 3,100,000 บาท  อย่างไรก็ตามในด้านการสูญเสียชีวิตคู่นั้น อาจไม่สามารถนำมาพิจารณาได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุการติดคุกเป็นสำคัญ เพราะยังมีปรากฏการณ์ที่คู่ครองอื่นก็ยังรักษาสถานะของตนรอจนผู้เสียหายพ้นโทษ และในกรณีนี้โทษก็มีอายุไม่มากนัก (3 ปี 2 เดือน)

            ความผิดพลาดของทางราชการก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในกรณีประเทศไทยและต่างประเทศ ในกรณีการบริจาคเงินช่วยเหลือนั้น ในแง่หนึ่งผู้เกี่ยวข้องในวงราชการควรมีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ราชการพึงจ่ายค่าทดแทนให้ "ครูแพะ" แต่โดยที่เงินส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดที่ทางราชการอาจต้องจ่ายแก่ "ครูแพะ" นั้นมาจากภาษีของประชาชนโดยตรง ประชาชนจึงอาจพิจารณาบริจาคเงินให้ทางราชการ นำเงินไป "เยียวยา" แก่ "ครูแพะ" เพื่อที่เงินหลวง หรือเงินของประชาชนจะได้เก็บไว้ใช้พัฒนาประเทศในทางอื่นต่อไป

            อีกประเด็นหนึ่งก็คือ กรณีข้าราชการในส่วนงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเองเช่นนี้ ชี้ให้เห็นว่า

            1. เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรมีระบบประกันทางวิชาชีพ เพื่อที่จะได้มีเงินทดแทนเพื่อชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และยังเป็นการพัฒนาวิชาชีพทางหนึ่งเพราะจะเกี่ยวข้องกับการสอบจัดระดับวิชาชีพและใบอนุญาตทางวิชาชีพ

            2. ควรมีการเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ในสหรัฐอเมริกา หัวหน้าตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษาในแต่ละท้องถิ่นตั้งแต่ศาลชั้นต้นยันศาลฎีกา (ยกเว้นคดีปกครอง) ล้วนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง (โปรดดูเพิ่มเติม ประชาธิปไตยที่แท้จากสหรัฐฯ: เลือกตั้งทุกอย่างรวมทั้งผู้พิพากษา (http://bit.ly/2c8Dksc) และ ทั่วโลกประชาชนเป็นคนแต่งตั้งผู้พิพากษา?!? (http://bit.ly/2ck3lVN)

            กรณี "ครูแพะ" เป็นเรื่องที่น่าสงสาร (ถ้าไม่มีอะไรพลิก) แต่ก็ให้อุทาหรณ์หลายประการ

อ่าน 7,885 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved