รัฐบาลใกล้ "ถังแตก" ดร.โสภณ แนะแนวทางหาเงินเข้ารัฐเพื่อนำมาพัฒนาประเทศโดยไม่ต้องไปกู้หรือไม่ต้องจัดทำงบประมาณขาดดุลให้เป็นภาระแก่ลูกหลานในอนาคต
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) นำเสนอแนวทางการหารายได้เข้ารัฐ ดังนี้:
1. การทำ "หวยบนดิน" เช่นที่ดำเนินการในสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถหาเงินเข้ารัฐได้ปีละ 72,000 ล้านบาท (http://bit.ly/2jzhDIP) และยังสร้างงานได้อีกประมาณนับแสนรายทีเดียว เป็นการช่วยชาติ 2 ต่อ และผลการออก "หวยบนดิน" ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาว่ามีการเล่นการพนันมากขึ้นหรือสร้างปัญหาให้กับสังคมแต่อย่างใด
2. การทำกาสิโนในประเทศไทย จากการศึกษาพบว่าการพนันในประเทศไทยเกี่ยวข้องกับรายได้ถึง 357,275 ล้านบาท (http://bit.ly/2bzohth) ซึ่งยังอาจจะน้อยไป ทั้งนี้หากเทียบกับกาสิโน 2 แห่งของสิงคโปร์ที่สร้างรายได้ได้ถึง 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (http://bit.ly/2iTI6zF 172,800 ล้านบาท) ถ้ามีกาสิโน รายได้จากกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย คงเป็นเงินมากกว่า 500,000 ล้านบาท หากสามารถเก็บภาษีได้ปีละ 15% ก็คงได้เงินประมาณ 75,000 ล้านบาท
3. การพัฒนาที่ราชพัสดุ ยังมีที่ดินใจกลางเมืองจำนวนมากที่สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศได้ เช่น ที่ดินกรมทหาร เขตดุสิต ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางหลายพันไร่ พื้นที่กรมทหาร ถ.โยธี พญาไท ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าผ่านเช่นกัน สนามม้าราชดำริ สนามม้านางเลิ้ง โรงซ่อมรถไฟ บึงมักกะสัน ซึ่งมีทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าผ่านเช่นกัน โรงงานยาสูบเดิม ถ.พระรามที่ 4 ซึ่งมีรถไฟฟ้าและทางด่วนผ่านบริเวณใกล้เคียง ที่ดินคลังน้ำมัน ถ.พระราม 3 ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ดินการรถไฟฯ ถ.เชื้อเพลิง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเรือคลองเตยที่อาจจะย้ายไปแหลมฉะบัง ที่ตั้งขององค์การแบตเตอรี่ผนวกกับองค์การแก้วเดิม ฯลฯ หากสมมติมีพื้นที่รวมกัน 10,000 ไร่ หากราคาตลาดเป็นเงินเฉลี่ยตารางวาละ 300,000 บาท หรือไร่ละ 800 ล้านบาท ก็เป็นเงินสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท หากให้เช่าระยะเวลา 30 ปีไปพัฒนา ณ อัตราค่าเช่า 35% ของราคาตลาด ก็จะได้รายได้เข้าหลวงถึง 420,000 ล้านบาท เงินจำนวนมหาศาลนี้นำไปพัฒนาประเทศได้มหาศาล
4. การลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การลดจำนวนข้าราชการโดยเฉพาะที่ทำงาน "เช้าชาม เย็นชาม" การให้บริการสาธารณสุขเป็นการรับเหมาโดยภาคเอกชน จะเห็นได้ว่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐมีค่าใช้จ่ายสูงมากหากเทียบกับจำนวนคนไข้ ประสิทธิภาพการใช้เงินอาจมีน้อย การให้เอกชนมาบริหารกิจการบางแห่ง เช่น คุก เช่นในสหรัฐอเมริกา บริษัทบริหารคุกสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ด้วย การขายรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน เช่น การบินไทย การดำเนินการตามนี้อาจช่วยประหยัดเงินและสร้างรายได้นับหมื่นล้านบาทต่อปีให้กับรัฐ
5. ตัดลดงบประมาณที่ (อาจ) ไม่จำเป็นต่าง ๆ เช่น ด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นสูงมากทั้งที่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม โดยจะเห็นได้ว่า "10 ปีงบฯ กลาโหม จาก 2549-2559 เพิ่มกว่า 100 เปอร์เซ็นต์" (http://bit.ly/2jzuQ4t) หรือด้านการศึกษาที่จำนวนประชากรวัยเด็กลดลงกว่าแต่ก่อน แต่งบประมาณกระทรวงศึกษาธิการยังกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
ด้วยการบริหารจัดการเช่นนี้ และอาจมีมาตรการที่เกี่ยวเนื่องอื่นอีก ก็จะทำให้ทางราชการไม่ต้องก่อหนี้หรือสร้างปัญหาให้กับประเทศชาติในระยะยาว
ที่มา: www.matichon.co.th/news-photo/matichon/2015/08/ctn01250858p1.jpg