โรงไฟฟ้ากระบี่ปลอดภัยแน่นอน ดูได้จากโรงแรม-รีสอร์ตโดยรอบที่ดำรงอยู่และเกิดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ แม้แต่เดิมโรงไฟฟ้ากระบี่จะใช้ถ่านหินลิกไนต์ก็ตาม อย่าให้พวกเอ็นจีโอโป้ปดทำลายประเทศ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ยกหลักฐานให้เห็นชัดเจนว่า ในกรณีโรงไฟฟ้ากระบี่ ได้เปิดดำเนินการในช่วงปี 2507 ถึง 2538 โดยใช้ถ่านหินลิกไนต์ที่มีคุณภาพต่ำกว่าถ่านหินบิทูมินัส อย่างไรก็ตามจำนวนรีสอร์ตหรูกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่แสดงว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินไมได้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าโรงไฟฟ้ากระบี่ทำลายสิ่งแวดล้อม ก็คงทำให้โรงแรมรีสอร์ตเหล่านี้ไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
กรณีนี้เห็นได้ในมาเลเซียหลายแห่งเช่นกันที่โรงไฟฟ้าอยู่ใกล้ย่านชุมชนและรีสอร์ตโดยไม่ส่งผลกระทบ โดยจะสามารถดูได้จากภาพซึ่งเป็นประจักษ์หลักฐานต่อไปนี้
โรงไฟฟ้ากระบี่ยังเหนือกว่าโรงไฟฟ้าของมาเลเซียและสิงคโปร์ตรงที่
1. ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเล สามารถป้องกันมลพิษลงทะเลได้ (ถ้ามีจริง)
2. ก่อสร้างใหม่ มีเทคโนโลยีที่ยิ่งดีกว่าของประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียเสียอีก
ดังนั้น ความกลัวที่พวกเอ็นจีโอสร้างขึ้นจึงไม่ใช่เป็นเรื่องจริง สิ่งที่พึงใส่ใจก็คือเสียงของประชาชนเจ้าของพื้นที่ ในกรณีนี้ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็ควรสร้าง ไม่ใช่ให้พวก "กฎหมู่" เอ็นจีโอมาอยู่เหนือกฎหมายและท้าทายอำนาจรัฐอยู่แบบนี้ เพราะเท่ากับทำลายผลประโยชน์ของประชาชนที่พึงได้จากการมีความมั่นคงทางพลังงาน เพื่อความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศและท้องถิ่น ทำให้ประชาชนที่รวมทั้งกลุ่มต้านได้ประโยชน์
เลิกเสียทีกับวัฒนธรรมเถื่อนที่พอไม่ได้ดังใจก็แต่งม็อบของคนส่วนน้อยมาทำลายประโยชน์ของคนส่วนใหญ่