คนที่ไม่ยอมย้ายออกจากสมบัติของแผ่นดินคือป้อมมหากาฬนั้น อ้างเรื่องบ้านโบราณและวิกลิเก ซึ่งเป็นเรื่องเท็จ "แหกตา" ประชาชน เพื่อหวังจะได้ครอบครองสมบัติของแผ่นดินโดยขาดหิริโอตตัปปะไปอีกนานแสนนาน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) ได้รวบรวมประเด็นคำโกหกหรือไม่มาให้สาธารณชนได้พิจารณากัน
โกหกว่ามีคณะลิเกโบราณ
ที่ผ่านมา มีการแสดงภาพถ่ายวิกลิเกโบราณในชุมชน แต่แท้จริงแล้ว ภาพดังกล่าวถ่ายที่วัดสระเกศ ไม่ใช่ในชุมชนดังอ้าง นี่คือการบิดเบือนความจริงโดยแท้
ดูใต้ภาพ เขียนชัดว่าวัดสระเกศ ไม่ใช่ในป้อมมหากาฬ ที่มา: http://bit.ly/2cMrCt6
โกหกว่าบ้านกรงนกมาแต่โบราณ
ตามชุดภาพที่แสดงต่อไปนี้บอกว่า บ้านเลขที่ 47 บ้านทำกรงนกที่ชุมชนบอกว่าเป็นคนอพยพมาจากปักษ์ใต้ ทำอาชีพนี้สืบต่อกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษเป็นวิถีชีวิตชุมชนของคนในป้อมหากาฬ แต่ "ดูกันดีๆ นะครับ บ้านเลขที่ 47 นี้ในปี 2499 เป็นบ้านที่มีคนจีนอาศัยอยู่ทั้งหมด ตามทะเบียนบ้านแผ่นแรก และได้ย้ายทะเบียนบ้านออกหมดในปี 2503 เมื่อกทม. ซื้อที่ดินมา ในปี2516 ที่ดินตรงนี้จะไม่มีบ้านอยู่ (ดูจากทะเบียนบ้านปี 2515 แผ่นที่ 2) บ้านเลขที่นี้จะไม่มีคนอยู่ จนถึงปี 2526 บ้านหลังนี้ก็ยังเป็นบ้านว่าง(ทะเบียนบ้านปี 2526 แผ่นที่3) ความหมายก็คือมีการรื้อบ้านไปแล้วแต่ยังไม่มีการแจ้งรื้อ และไม่มีการจำหน่ายทะเบียนบ้านหลังนี้ทั้งที่ความเป็นจริงบ้านเลขที่ 47 นี้ เดิมเป็นบ้านที่มีคนจีนอาศัยอยู่และได้รื้อย้ายออกไปตั้งแต่ปี 2503"
"คราวนี้มาดูทะเบียนบ้านแผ่นที่ 4 บ้านเลขที่ 47 ได้มีการปลูกสร้างใหม่ในปี 2532 และขอเลขบ้านใหม่โดยออกเลขทับเลขเดิมในปี 2535 โดยคนที่ขอเลขบ้านคือนางอรุณ นิลใบ ย้ายมาจากบ้านเลขที่132/472 ถนนพระราม6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ย้ายเข้ามาพร้อมกับครอบครัวในปี 2532 ก็คงสรุปได้แล้วนะครับว่าที่ชุมชนพยายามบอกว่ามีมุสลิมจากปักษ์ใตัมาประกอบอาชีพนี้ในป้อมมหากาฬสืบต่อมาหลายรุ่นน่ะ เป็นความจริงหรือเปล่า? เพราะคนที่อยู่ไม่ได้มีเชื้อสายคนจีนสักนิดเดียว และคงไม่ได้เป็นญาติสืบต่อกันมาจากเจ้าของเดิมชาวจีนแน่นอนใช่ไหมครับ" (http://bit.ly/2cvdocN)
ทะเบียนบ้าน 1
www.facebook.com/photo.php?fbid=1639133679750175&set=pcb.1639149599748583&type=3&theater
ทะเบียนบ้าน 2
www.facebook.com/photo.php?fbid=1639133686416841&set=pcb.1639149599748583&type=3&theater
ทะเบียนบ้าน 3
www.facebook.com/photo.php?fbid=1639133709750172&set=pcb.1639149599748583&type=3&theater
โกหกว่า ดร.ป๋วยก็เคยอาศัยในชุมชน
โกหกว่ามีบ้านทรงไทยหลังหนึ่งในชุมชน บอกว่าเป็นของตระกูลอึ๊งภากรณ์ แต่ในความเป็นจริง เมื่อปี 2548 หรือ 11 ปีที่แล้ว "ทายาท 'อึ๊งภากรณ์' ชี้แจงว่า บ้านที่เรียกว่าบ้านไม้โบราณนี้ไม่เกี่ยวข้อง ดร.ป๋วย" นางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์ เป็นสะไภ้ และได้รับมรดกจากนางจิบ บุรกิจ และนางอุไรวัลย์ยังพยายามจะรื้อหลังจากได้รับเงินชดเชยจาก กทม. แล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยอมให้เขารื้อบ้านของตนเอง เดือดร้อนจนต้องมาให้ กทม. รื้อถอนแทน นี่คือเล่ห์กลที่น่าละอายของคนที่เรียกร้องไม่ยอมย้ายออกไป ส่วนเรื่องของมีค่าไม่ว่าจะเป็นลวดลายต่างๆ ที่ตกแต่งบนตัวบ้านนั้น ก็ถูกแกะขายไปหมดแล้ว (http://bit.ly/2bQJAap)
หลักฐานคำร้องของนางอุไรวัลย์ อึ๊งภากรณ์
ที่มา: http://www.area.co.th/images/img_press/2559/09/press321-59_04.jpg
โกหกว่าจะย้ายแต่เบี้ยว
โกหกตั้งแต่รุ่นพ่อแม่แล้วว่าจะย้ายออก แต่ก็ไม่ยอมย้ายใช่ไหม นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ได้เขียนใน FB เล่าว่า "ครั้งหนึ่ง เกือบ 20 ปีมาแล้ว ผมมีโอกาสเข้าไปในชุมชนป้อมมหากาฬ เพื่อเจรจากับผู้นำชุมชนในสมัยนั้นก็คือคุณป้านงลักษณ์ วรมหาคุณ และคุณลุงชาญ ทัพเมฆา การเจรจาเป็นไปด้วยดีโดยทั้งสองท่านขอให้ชะลอการเข้าพื้นที่ของกทม. ไว้ก่อน เนื่องจากยังไม่สะดวกเพราะเด็กๆ ยังไม่ปิดเทอม"
". . . ผู้บริหาร (กทม.) ได้ยินยอมผ่อนปรนให้ เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง . . . สิ่งที่ผมขอชุมชนในตอนนั้นคือพยายามอย่าปลูกอาคารสิ่งปลูกสร้างใหม่ขึ้นมา. . .ผ่านไปเกือบ 20 ปี ผู้นำทั้งสองท่านเสียชีวิต . . . ถึงวันนี้กลับลืมสิ่งที่พ่อแม่ของตนเองสัญญาไว้ มีการปลูกสร้างอาคารใหญ่โตบุกรุกในที่ดินว่างที่เจ้าของเดิมรื้อย้ายออกไปแล้ว รวมทั้งไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่. . . (http://bit.ly/2cwlL5v)" อย่างนี้ถือเป็นการโกหกหรือไม่
โกหกว่าฐานะยากจน
ถ้ายากจนจริง ทำไมมีบ้านไม้หรูๆ เพิ่งปลูกใหม่ต่อเติมไม่นาน ทั้งที่ไม่ใช่ที่ดินของตนเองเลย ในขณะที่มีการโพนทะนากันว่ามีบ้านอยู่กันมานาน แต่หากเราสังเกตให้ดี และผู้สนับสนุนจากภายนอกไม่ "ใจบอด" จะเห็นได้ว่ามีการก่อสร้างบ้านสวย ๆ ใหม่ ๆ อย่างน้อย 4 หลัง บ้านแต่ละหลังคงมีราคาแพงพอสมควรทีเดียว คนที่ก่อสร้างบ้านเช่นนี้ได้ คงไม่ได้ยากจน แต่ตั้งใจปักหลักปักฐาน ที่ดินที่ก่อสร้างก็คงเป็นที่ดินของกรุงเทพมหานครที่เวนคืนมาแล้ว น่าจะถือเป็นผู้บุกรุก และหากถูกรื้อก็คงเสียดาย จึงต้องต่อสู้สุดขีดเพื่อรักษาผลประโยชน์อันมิชอบของตนเองใช่หรือไม่ จากการสำรวจยังพบว่าในแต่ละครอบครัว รายได้ของหัวหน้าครอบครัวโดยเฉลี่ย 19,421 บาทต่อเดือน รายได้ของครอบครัวเฉลี่ยอยู่ที่ 25,895 บาท นี่ยังคงเป็น "คนจน" อยู่อีกหรือ (http://bit.ly/2aYm8Eh)
รูปบ้านใหม่-โอ่โถง หลังที่ 1
ที่มา: www.facebook.com/photo.php?fbid=1637536549909888&set=pcb.1637539086576301
รูปบ้านใหม่-โอ่โถง หลังที่ 2-3
ที่มา: www.facebook.com/photo.php?fbid=1637536533243223&set=pcb.1637539086576301
ทำความจริงให้ปรากฏ อย่าให้ใครอ้างส่งเดช เพื่อหวังฮุบสมบัติของแผ่นดิน