อย่าได้กลัวไป อย่าได้บ้าจี้ตามนักวิชาการที่บอกว่าจะมีฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ ฟองสบู่แตก ภาวะที่ขายฝืดขนาดนี้ สถาบันการเงินก็ไม่ค่อยอำนวยสินเชื่อ จะเอาฟองสบู่มาจากไหน! ดร.โสภณ ยืนยัน
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) กล่าวว่าที่ผ่านมามีนักวิชาการบางท่านออกมาระบุว่าจะมีฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ เช่น
1. "'ศุภชัย'ห่วงเศรษฐกิจไม่ดี เตือนฟองสบู่อสังหาฯ" (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ 18 พฤษภาคม 2560 เวลา 08:59 น. https://goo.gl/Vyt7SF) โดยระบุว่า ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ กล่าวว่า "การลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่จากที่มีการก่อสร้างโครงการจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลดูแลให้ดี แม้ว่าตอนนี้ไม่มีสัญญาณฟองสบู่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่"
2. "นักเศรษฐศาสตร์ประเมินเศรษฐกิจ 3 ปีหลัง คสช. ยึดอำนาจ เอกชนลงทุนเติบโตต่ำ (ประชาไท 21 พฤษภาคม 2560 https://goo.gl/W89hWY) โดย ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ระบุว่า "การลงทุนภาคเอกชนเติบโตต่ำแม้นกระเตื้องขึ้นและมีสัญญาณฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บางส่วน"
การพูดถึงฟองสบู่แบบนี้อาจทำให้เกิดข้อปริวิตกในวงการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเกิดความกังวล อาจเป็นผลกระทบต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ดร.โสภณ พรโชคชัย ซึ่งเป็นผู้สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2537 มั่นใจว่าในปีนี้ไม่เกิดภาวะฟองสบู่อย่างแน่นอน เพราะการเปิดตัวโครงการใหม่จะน้อยกว่าปี 2559 ยิ่งกว่านั้นการขายก็ค่อนข้างฝืด จึงไม่น่าจะเกิดฟองสบู่ขึ้นมาได้
ดร.โสภณ ได้นำข้อมูลการเปิดตัวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2560 คูณด้วย 3 โดยมีสมมติฐานว่าในอีก 8 เดือนสุดท้ายของปี 2356 จะเปิดตัวพอๆ กับไตรมาสแรก ก็จะพบว่าการเปิดตัวในปี 2560 น่าจะน้อยกว่าปี 2559 อย่างมากพอสมควร โดยจำนวนหน่วย จะลดลง 20% เหลือ 88,824 หน่วย จาก 110,557 หน่วยในปี 2559 และมูลค่าจะลดลงถึง 27% คือลดจาก 382,110 ล้านบาท เหลือ 280,323 ล้านบาทนั่นเอง
ถ้าจะให้การเปิดตัวของโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2560 มีขนาดพอ ๆ กับปี 2559 จำนวนหน่วยการเปิดตัวใหม่ในอีก 8 เดือนที่เหลือ แต่ละเดือนใน 8 เดือนสุดท้ายนี้ ต้องมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้น 37% ในด้านจำนวนหน่วย จึงจะทำให้การเปิดตัวเท่ากับปี 2559 ส่วนในแง่มูลค่า มูลค่าการเปิดตัวในอีก 8 เดือนที่เหลือต้องเพิ่มขึ้นถึง 54% ของการเปิดตัวในช่วง 4 เดือนแรก จึงจะได้มูลค่าของทั้งปีเท่ากับปี 2559 ซึ่งการนี้คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2560 จึงน่าจะน้อยกว่าปี 2559 อย่างแน่นอนแล้ว
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเปิดตัวในแต่ละเดือนของ 8 เดือนหลังของปี 2560 น่าจะมีเพิ่มขึ้นเดือนละ 18% ในแง่จำนวนหน่วย และ 25% ในแง่มูลค่า แม้จะไม่ถึง 37% และ 54% ตามลำดับที่คาดไว้ก็ตาม ในกรณีนี้ ก็จะทำให้อุปทานในปี 2560 ต่ำกว่าปี 2559 ถึง 10% ในแง่จำนวนหน่วยและ 14% ในแง่ของมูลค่า แสดงว่ายังไงปี 2560 ก็จะมีอุปทานน้อยกว่าปี 2559 อยู่ดี ยิ่งกว่านั้นในช่วงนี้สถาบันการเงินต่าง ๆ อำนวยสินเชื่ออย่างค่อนข้างจำกัด ยิ่งทำให้ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์เกิดแทบไม่ได้เลย
ภาวะในขณะนี้ทุกฝ่ายต้องไม่เร่งผลิตที่อยู่อาศัยออมามากจนเกินไป และดูแลยอดขายให้ดี เพื่อให้สมดุลกับความต้องการในตลาด ปัญหาฟองสบู่จะก็ไม่มีวันเกิดขึ้นใน 1-2 ปีนี้