สมาคมหรือสภาวิชาชีพต้องพยายามส่งเสริมให้สมาชิกได้รับการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่องในราคาถูก ไม่ใช่หากินกับสมาชิก นี่เท่ากับผู้บริหารสมาคม/สภาเอาดีใส่ตัวและทำลายแทนที่จะสร้างสรรค์วงการ

            เมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.trebs.ac.th) ซึ่งเป็น Education Arm ของ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้รับการอนุมัติหลักสูตรอบรมเพื่อการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพบัญชีจากสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนฯ ได้รับอนุมัติหลักสูตรหลายหลักสูตรมาแล้ว และยังได้รับการอนุมัติหลักสูตรจากสภาวิศวกร เช่น หลักสูตรผู้ตรวจสอบอาคาร รวมทั้งได้ร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอื่น ๆ จัดหลักสูตรอบรมความรู้ต่อเนื่องด้วย

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ และประธานศูนย์ฯ ได้ให้ข้อสังเกตว่า การที่สมาคมและสภาที่เกี่ยวข้องให้การอนุมัติหลักสูตรแก่สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ถือเป็นหนทางที่ถูกต้องในการพัฒนาวิชาชีพ โดยสมาคมและสภาต่าง ๆ ไม่ได้ผูกขาดดำเนินการเอง  ทั้งนี้เพื่อให้มีหลักสูตรและความรู้ที่หลากหลาย ให้สมาชิกสามารถเลือกเข้ารับการอบรมได้ตามที่เห็นสมควร

            ดร.โสภณ ให้ความเห็นว่า ในบางสมาคม อาจจัดการอบรมสมาชิกเอง ซึ่งเท่ากับใช้สมาคมทำธุรกิจแข่งกับสมาชิกหรือสถาบันการศึกษาอื่น หรืออาจผูกขาดร่วมกับสถาบันใดสถาบันหนึ่งทำการอบรม ซึ่งเท่ากับเป็นการแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม  ไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้เลือกเองได้ตามความเหมาะสม การไม่ให้เกิดการแข่งขัน ก็ย่อมทำให้เกิดการผูกขาด และแสดงถึงความไม่โปร่งใส

            ยิ่งกว่านั้นในประเด็นที่สำคัญก็คือ สำหรับสมาชิกกลับถูกแสวงหาประโยชน์ เช่น หลักสูตรอบรมต่อเนื่องของบางสมาคมอาจคิดค่าใช้จ่ายแพงเกินกว่าภาคเอกชนหรือสถาบันอื่นเสียอีก ทำให้สมาชิกต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการอบรมต่อเนื่อง เท่ากับเป็นการ "รีดเลือดกับปู" เพราะสมาชิกที่เป็นนักวิชาชีพ ควรได้รับการส่งเสริมให้ได้รับการอบรมที่มีคุณภาพในราคาประหยัด ที่ผ่านมาโรงเรียนฯ ก็ได้ร่วมกับสมาคมหลายแห่ง เช่น สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย จัดอบรมหลักสูตรนายหน้าในราคาประหยัด ซึ่งก็ไม่ได้มีเฉพาะโรงเรียนนี้ แต่ยังมีสถาบันการศึกษาอื่นจัดการศึกษานี้เช่นกัน เพื่อให้สมาชิกได้เลือกตามที่เห็นสมควร

            ถ้าผู้นำในวงการวิชาชีพทำเพื่อวงการจริงๆ ต้องให้สมาชิกในวงการมีสิทธิมีเสียง ไม่ใช่แสวงหาผลประโยชน์เข้าสู่ตนเองและพวกพ้อง และไม่เป็นผลดีต่อสมาชิกในการพัฒนาความรู้ต่อเนื่อง