มีข่าวออกมาว่า จีนที่ได้สัมปทานสร้างรถไฟ เกิดใจดีจะสอนเทคโนโลยีการก่อสร้างรถไฟให้กับคนไทยแสดงว่าต่อไปใครจะสร้างรถไฟได้เอง (ฮา) โกหกทั้งเพ!!!

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวถึงกรณีการถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างรถไฟความเร็วสูงของจีนว่าเป็นที่น่าสะดุดใจกับข่าว "จีนพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างรถไฟให้ไทย (ไทยโพสต์ 24 กรกฎาคม 2560 เวลา 15:16 http://bit.ly/2uukBBy) โดยบอกว่า "รมว.ต่างประเทศจีนเข้าเยี่ยมคารวะบิ๊กตู่ ยืนยันพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างรถไฟให้แก่ไทย หวังโครงการความร่วมมือรถไฟเชื่อมโยงเส้นทางระดับภูมิภาค

            อย่างไรก็ตามเมื่ออ่านรายละเอียดในเนื้อข่าวกล่าวว่า "นายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศของจีน กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความร่วมมือรถไฟไทย-จีน โดยยืนยันว่าในส่วนของทางการจีน จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างรถไฟ และช่วยอบรมเจ้าหน้าที่เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง. . .'ประเทศจีนมีความตั้งใจที่จะช่วยผลักดันความร่วมมือการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนนี้ โดยมีโรดแมปที่ชัดเจน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น' นายหวัง อี้ กล่าว"

            ดร.โสภณกล่าวว่า ข่าวนี้อาจถือได้ว่าเป็นการพูดให้สัมภาษณ์ (ส่งเดช) เขียนข่าว (ส่งเดช) หรือไม่อย่างไร เราพิจารณาดูกัน เรื่องนี้คงเกิดขึ้นเพราะความ "ฉาวโฉ่" ที่เอื้อประโยชน์แก่มหาอำนาจจีนด้วย ม.44 และให้จีนมาเป็นผู้ก่อสร้างทั้งขนแรงงานจีนมาด้วย แต่ต่อมาก็มีการ "แก้ข่าว" เป็นระยะๆ เช่น สถาปนิก-วิศวกรจีนก็ต้องผ่านการอบรมจากไทย หรือให้แรงงานคนไทยก่อสร้างได้ตั้งแต่รางรถไฟลงไปถึงใต้ดิน เป็นต้น   

            คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ต่อไปไทยจะสร้างรถไฟ ความเร็วปานกลาง-สูง ได้เองแล้วใช่ไหม โครงการนี้เริ่มจากกรุงเทพมหานครไปนครราชสีมา แสดงว่าส่วนต่อจากนครราชสีมาไปถึงหนองคาย ไทยจะสร้างเองได้หรือ หรือไทยจะสร้างรถไฟจากกรุงเทพมหานครไปเชียงใหม่-เชียงรายได้เองเลย หรือเราจะสร้างจากกรุงเทพมหานครลงได้ถึงชายแดนมาเลเซียได้เองโดยไม่ต้องมีจีนเพราะเขาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แล้วใช่หรือไม่

            แค่นี้ก็คงคิดได้ต่อเองได้ว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เขาได้สร้างเส้นแรกแล้ว ต่อไปจีนก็คงได้สร้างเส้นอื่นๆเพราะถือว่ามีประสบการณ์ในไทยก่อนใครแล้ว ขนาดที่ผ่านมา ไม่เคยมีประสบการณ์ในไทยมาก่อนก็ยัง "ดั้นเมฆ" มาได้ จีนคงมาครอบงำโครงสร้างพื้นฐานของไทย และถือไทยเป็น "อาณานิคม" ของจีนไปหรือเปล่า ผมก็เป็นคนไทยแต่มีเชื้อสายจีน 100% แต่ผมก็ไม่ได้นิยมระบอบจักรวรรดินิยม ที่จีนพยายามทำแบบเดียวกับจักรวรรดินิยมอเมริกา

            ลองฉุกคิดอีกนิดว่าที่ผ่านมาจีนเคยถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างรถไฟให้ประเทศใดหรือไม่  แล้วอยู่ดีๆ จีนจะเมตตาถ่ายทอดให้ไทยทำไมเว้นแต่ใครจะเป็น "อาณานิคม" ของจีนซึ่งบางคนคงดีกว่าหรือน่าภูมิใจกว่าจะเป็น "อาณานิคม" ของอเมริกาหรืออย่างไร การพูดถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยี ก็เพียงการ "แก้เกี้ยว" หลังจากได้เห็นภาพการ "เลือกข้าง" ของทางราชการไทย

            ถามกันอย่างไม่เกรงใจก็คือ จีนคิดเทคโนโลยีเองเลยหรือ ยิ่งกว่านั้น ที่ผ่านมาเทคโนโลยีของจีนก็ "ขโมย" มาจากประเทศอื่นใช่หรือไม่ หรือบางทีก็อ้างว่าตนซื้อเทคโนโลยีมาจากต่างประเทศ เช่น ระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงของฝรั่งเศสที่ทำการก่อสร้างที่เซี่ยงไฮ้ เป็นต้น แล้วในกรณีของไทย ไทยได้ซื้อเทคโนโลยีเข้ามาด้วยหรือ เขาถึงจะมาถ่ายทอดให้ นี่เองจึงอาจกล่าวได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ

            ในอีกหลายปีข้างหน้าจีนอาจมาแก้ตัวตลกๆ ได้ว่า เขาก็ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แล้ว แต่คนรับไปไม่ได้นำไปสานต่อ คนรับไปก็เกษียณไปตามกาลเวลา หรือ "ทางการจีน จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างรถไฟ และช่วยอบรมเจ้าหน้าที่ (ในระดับหนึ่ง) เพื่อให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง (เฉพาะในโครงการนี้ให้เสร็จ)" เพราะ "ประเทศจีนมีความตั้งใจที่จะช่วยผลักดันความร่วมมือการก่อสร้างรถไฟไทย-จีนนี้ โดยมีโรดแมปที่ชัดเจน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้เร็วยิ่งขึ้น" (เป็นคำพูดหรูๆ เท่านั้น)

            สงสารประเทศไทยจัง

            ปล. ดร.โสภณ มีเชื้อสายจีน 100% รักประเทศจีนแต่ไม่เห็นด้วยกับผู้นำจีนที่พยายามทำประเทศให้เป็นจักรวรรดินิยมแบบอเมริกา สำหรับประเทศไทย ผมถือว่า "เกิดที่ไหนก็ต้องตายเพื่อประเทศนั้น" เป็นการแทนคุณแผ่นดินเกิด!

ที่มา: http://www.posttoday.com/biz/gov/504971