จากการสำรวจโครงการนับพันแห่ง ดร.โสภณ ชี้ว่า บ้านเดี่ยวบางทำเลและบางระดับราคา ขายไม่ออก ต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโครงการจะเป็นเช่นนี้ พึงไตร่ตรองให้ดี
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้สำรวจพบว่าโครงการบ้านเดี่ยวในบางทำเลประสบปัญหาในการขาย และจึงเป็นสินค้าที่ไม่ควรทำการพัฒนาซ้ำ เพราะไม่น่าจะขายได้ สถาบันการเงินใดให้สินเชื่อกับสินค้าเหล่านี้ อาจจะมีปัญหาหนี้เสียได้ แต่ทั้งนี้บางโครงการในกลุ่มนี้ ก็อาจไม่เป็นเหมือนภาพรวมได้ ดังนั้นในการใช้ข้อมูลต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดด้วย
สำหรับอันดับโครงการบ้านเดี่ยวที่มีปัญหา เป็นดังนี้:
อันดับที่ 1 ทำเล E1: หทัยราษฎร์ ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.990 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.02% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 33 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง นับสิบปี คาดว่าโครงการแบบี้คงจะไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 2 ทำเล A4: รังสิต คลอง 1-7 ณ ระดับราคา 1.001-2.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 1.900 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.09% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 440 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง นับสิบปี คาดว่าโครงการแบบี้คงจะไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 3 ทำเล A4: รังสิต คลอง 1-7 ณ ระดับราคา >20.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 39.000 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.14% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 26 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง นับสิบปี (แทบไม่ได้ขายเลย) คาดว่าโครงการแบบี้คงจะไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 4 ทำเล H7: บางปู ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 9.000 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.19% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 70 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง นับสิบปี คาดว่าโครงการแบบี้คงจะไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 5 ทำเล D3: บางบัว ณ ระดับราคา 5.001-10.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 8.120 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.26% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 36 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 227 เดือน คงเป็นเพราะราคาสูงเกินไป
อันดับที่ 6 ทำเล N2: วงแหวนรอบนอก-คลองมหาสวัสดิ์ ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.950 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.36% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 158 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง นับสิบปี คาดว่าโครงการแบบี้คงจะไปต่อไม่ได้แล้ว
อันดับที่ 7 ทำเล N4: บางบัวทอง ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.784 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.39% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 209 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 111 เดือน ราคาและทำเลอาจไม่สัมพันธ์กัน
อันดับที่ 8 ทำเล N7: ลาดหลุมแก้ว ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.800 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.42% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 122 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 101 เดือน ราคาและทำเลอาจไม่สัมพันธ์กัน
อันดับที่ 9 ทำเล E3: หนองจอก ณ ระดับราคา 2.001-3.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 2.798 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.47% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 751 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 152 เดือน คงเป็นเพราะโครงการประสบปัญหา
อันดับที่ 10 ทำเล K6: วงแหวนรอบนอก-เพชรเกษม ณ ระดับราคา 3.001-5.000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.590 ล้านบาท มีอัตราการขายต่ำมากเพียง 0.57% ต่อเดือน ขณะนี้ยังมีเหลือขายอีก 20 หน่วย คาดว่าจะต้องใช้เวลาขายอีกนานถึง 98 เดือน ราคาและทำเลอาจไม่สัมพันธ์กัน
ส่วนแนวทางการเยียวยาที่ทำได้ ก็อาจแปลงจากบ้านเดี่ยวเป็นบ้านแฝดหรือทาวน์เฮาส์แทน หรือไม่ก็อาจหยุดการพัฒนาเพื่อรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไปก่อน