AREA แถลง ฉบับที่ 43/2554: 10 พฤษภาคม 2554
คลองสาน: ทัศนียภาพเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ทำเลคลองสานเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท ต่อไปยังมีโอกาสเกิดโครงการอาคารชุดอีกมาก แต่ต้องระวังปัญหาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยบจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส แถลงว่าคลองสานเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจเพราะตั้งอยู่เพียงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และที่สำคัญ หากเป็นห้องชุดที่หันหน้าเข้าหาแม่น้ำเจ้าพระยา ก็จะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ขึ้น ซึ่งดีกว่าฝั่งกรุงเทพมหานครที่มองเห็นดวงอาทิตย์ตก
บริเวณคลองสานมีอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยที่เสนอขายเพียงประเภทเดียวคือห้องชุดพักอาศัย โดยจากข้อมูลล่าสุดในขณะนี้ มีห้องชุดเหลือขายอยู่ 1,540 หน่วย โดยเป็นห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท 143 หน่วย แต่ห้องชุดที่ยังเหลืออยู่มากที่สุดคือห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท 629 หน่วย รองลงมาคือห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท 446 หน่วย อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีห้องชุดราคาแพง 5-10 ล้านบาทเหลืออยู่ 199 หน่วย ส่วนที่มีราคา 10 - 20 ล้านบาทอีก 110 หน่วยรอการขายอยู่ นอกจากนี้ยังมีห้องชุดราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ที่เป็นห้องชุดอย่างดีริมแม่น้ำเจ้าพระยาเหลือขายอยู่อีก 13 หน่วย สำหรับอัตราการขายโครการอาคารชุดในทำเลคลองสานนี้ขายได้ดีพอสมควรคือ 8% ของหน่วยขายทั้งหมดต่อเดือน
หากวิเคราะห์เฉพาะกลุ่มห้องชุดที่เปิดขายในปี 2553 จะพบว่า มีเปิดขายรวมกันถึง 3,019 หน่วย และสามารถขายไปแล้วถึง 2,291 หน่วย เหลืออยู่เพียง 728 หน่วยเท่านั้น แสดงว่าการขายเป็นไปด้วยดี มีอัตราการขายเฉลี่ยสำหรับสินค้าประเภทห้องชุดใหม่ๆ ถึง 12% ต่อเดือน ยิ่งถ้าเป็นห้องชุดหรูราคา 5-10 ล้านบาทนั้น ปรากฏว่า ขายได้ถึง 15% ของยอดเปิดตัวทั้งหมดต่อเดือน อย่างไรก็ตามห้องชุดที่เปิดตัวมากที่สุดในทำเลคลองสานนี้มีราคา 2-3 ล้านบาท โดยเปิดตัวถึง 1,554 หน่วย แสดงว่าผู้มีรายได้ปานกลางมาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มากพอสมควร เนื่องจากอยู่ใกล้เขตใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร เพียงแค่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้น
สำหรับการเปลี่ยนแปลงราคาของห้องชุดที่เสนอขายในท้องตลาดปัจจุบันปรากฏว่า ในเขตคลองสานแทบไม่มีการขยับราคาขายสำหรับโตรงการใหม่แต่อย่างใด ราคาในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาเพื่มขึ้นเพียง 0.05% แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภาวะตลาดในพื้นที่นี้ขายไม่ดี เพียงแต่ระยะเวลาการขายไม่ได้ยาวนานจนเกินไปนัก จึงเพียงขายหมดไปตามปกติ และไม่มีการลดราคาแต่อย่างใด
หากนับหน่วยที่ขายได้เฉพาะปี 2553 นั้นพบว่า สามารถขายได้ถึง 3,001 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยขายที่เปิดมาก่อนปี 2553 และหน่วยขายที่เปิดเฉพาะในปี 2553 รวมกัน แต่เมื่อเทียบกับการเปิดตัวจำนวน 3,019 หน่วยนั้น นับว่าเป็นความสมดุลเป็นอย่างยิ่ง จำนวนที่ขายออกไปกับจำนวนที่เปิดใหม่มีขนาดใกล้เคียงกัน แสดงนัยว่าทำเลนี้เป็นที่ต้องการในตลาดเป็นอย่างยิ่ง และเป็นทำเลที่มีอนาคต จากที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจในย่านสีลม-สาทร และในรายละเอียดพบว่า ห้องชุดราคา 2-3 ล้านบาท ขายได้มากที่สุดถึง 1,383 หน่วย ในขณะที่ห้องชุดราคา 3-5 ล้านบาท มีผู้ซื้อไปถึง 778 หน่วย ต่อมาคือห้องชุดราคา 5-10 ล้านบาทที่มีผู้ซื้อไป 378 หน่วย
เชื่อว่าทำเลนี้ยังจะมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่อาจมีปัญหาบางประการ คือปัญหาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น กรณีโครงการห้องชุดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่จะก่อสร้างขึ้นใหม่ ไปบังทัศนียภาพของโครงการเดิม จนได้รับการร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยในโครงการเดิมดังกล่าว และ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ไม่มีกฎหมายบังคับและโครงการได้เปิดขายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 แต่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ อย่างไรก็ตามหากไม่มีปัญหาดังกล่าวนี้ โครงการอาคารชุดริมแม่น้ำในทำเลนี้น่าจะเป็นที่ต้องการสูงมาก ทั้งนี้เพราะราคาย่อมถูกกว่าในฝั่งกรุงเทพมหานครที่มีต้นทุนราคาที่ดินที่สูงกว่านั่นเอง
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์
เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |