พุทธะที่แท้: พระจับเงินได้!?!
  AREA แถลง ฉบับที่ 405/2560: วันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2560

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

            มีบางท่านบอกว่าพระจับเงินไม่ได้ คนที่นับถือพุทธศาสนาที่แท้ ต้องไม่ให้เงินพระ เดี๋ยวพระเอาไปใช้ในทางที่ไม่ดี นี่เป็นการดูถูกวิจารณญาณพระโดยแท้ ลองมาดูเรื่องดรามา "ห้ามพระจับเงิน" จาก อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์

            ห้ามพระแตะเงิน แต่ไม่ลังเลที่จะใช้มัน โดยเฉพาะเงินคนอื่นหรือไม่ นี่คือทัศนะสุดเพี้ยนของ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์หรือไม่  แถมขี้คุยอีกหรือไม่ ท่านบอกว่าท่านเป็นคนส่งพระไพศาล วิสาโล ไปอังกฤษ พระไพศาลต้องมีคนใช้ (ลูกศิษย์) ไปด้วย ไปช่วยชำระเงิน เพราะตนเองแตะเงินไม่ได้ (http://bit.ly/1WJWmpn) ข้อนี้ฟังผิวเผิน ก็จะรู้สึกได้ว่า พระไพศาลเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่แตะต้องเงินทองอะไรเลย

            แต่หากคิดให้ดีในอีกทางหนึ่ง จะต้องทบทวนว่า ความคิดและการปฏิบัตินี้เหมาะสมกับยุคสมัยหรือไม่ เนื้อหาสาระใจกลางของกรณีศึกษานี้ก็คือ

            1. การไม่คิดถึงความสิ้นเปลืองที่ต้องเดินทางไปอีกคนหนึ่งเลย ถ้าไม่ต้องเสียเงินให้คนรับใช้ไปอีก 1 คน เอาเงินที่ประหยัดได้ไปทำประโยชน์ต่อพุทธศาสนา ไม่ดีกว่าหรือ หรือเงินที่ใช้นี้ไม่ใช่เงินส่วนตัวอยู่แล้ว เลยไม่ลังเลที่จะใช้มันเสีย

            2. การมีคนรับใช้ไปด้วย กลายเป็นว่าพระไพศาลกลายเป็นศักดินาไปเลย ใช่หรือไม่ ผมเองอายุจะ 60 ปีอยู่แล้ว ไปไหนมาไหน ก็ไม่ต้องมีใครไปด้วย ไม่ใช่ไปอย่างข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เพราะเล็งเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง

            3. การคิดแบบนี้ตึงเกินไปหรือไม่ ไม่เดินสายกลางหรือไม่ ในสมัยพุทธกาล ฆราวาสสร้างวัด ทำทุกอย่างให้พระ แต่ในสมัยนี้ พระต้องจ่ายเงินเอง

            4. เป็นการทำเท่ ทำตัวเท่ๆ ไม่แตะเงิน แต่มีเงินซ่อนอยู่มากมายไม่ว่าใช่หรือไม่ เป็นการอวดตัวว่าตนเองบริสุทธิ์กว่าคนอื่นหรือไม่ เป็นการหลงแต่ในนิกาย ในบทบัญญัติแบบตายตัวหรือไม่ ทำไมทะไลลามะ (คนละนิกาย) ก็ยังสัมผัสมือกับผู้หญิงได้ พระนางพิมพายังกอดพระบาทพระพุทธเจ้า (http://bit.ly/2ytEYCl) เป็นต้น

            ยิ่งกว่านั้นในอีกแง่หนึ่งเป็นการดูถูกความคิดอ่านของพระ คิดอย่างเดียวว่าพระจะเอาเงินไปใช้ในทางเสื่อมเสีย หรือเอาไปใช้ส่วนตัว การโกงเงินวัดก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ แต่การตึงเกินไป ยึดถืออะไรที่คร่ำครึ ไม่เหมาะสมกับยุคสมัยเกินไป ก็คงไม่ถูกต้อง การจับเงินเป็นแค่อาการที่แสดงออก แต่การถือครองเงินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ก็ยังเคยบริจาคเงินส่วนพระองค์ 1.615 ล้านบาท (http://bit.ly/2zeFuBN) และต่อมายังบริจาคเงินส่วนพระองค์อีก 200 ล้านบาทเพื่อสร้างอาคารในโรงพยาบาล (http://bit.ly/2gM8ryn) เป็นต้น

            ผมได้แปะข้อความทำนองนี้วิพากษ์ความคิดของอาจารย์สุลักษณ์ และมีผู้มาแสดงความเห็น (http://bit.ly/2kyzos6) จึงขอนำส่วนหนึ่งมาเพื่อเป็นข้อคิด ดังนี้:

            พระชัยมงคล ชยมงคโล: . . .ว่างๆ (อ.สุลักษณ์) ไปส่องแถวขนส่ง สถานีรถไฟดูว่า พระขึ้นรถฟรีไหม ไป รพ.ฟรีไหม ไปฉันตามร้านค้าฟรีทุกที่ไหม เจ็บป่วยพระไปซื้อยาตามร้าน คลีนิคฟรีไหม เข้าห้องน้ำตามสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทั่วประเทศ ไปดูฟรีไหม. . .จะมีโยมสักกี่คนที่จะคอยดูแลพระสงฆ์ได้ตลอด เศรษฐีที่จะมีใจทำบุญเหมือนพระนางสุชาดา นางวิสาขา หรืออนาถบิณฑิกเศรษฐียุคนี้หาไม่มี ห้ามพระจับเงินจับทอง แต่จับกระดาษได้ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้น

            Jeabby Tg: อันนี้ไปกันใหญ่แล้ว นี่มันยุคไหนแล้วลุง???? จะเผยแพร่ศาสนากันยังไง แค่กฎเกณฑ์มากมาย ของพระสงฆ์เรา ก็เป็นช่องโหว่ ให้ศาสนาอื่นกลั่นแกล้ง แล้วยังห้ามพระถือเงิน แล้วจะเผยแพร่ศาสนากันยังไง สมัยพุทธกาล นั้นมันยุค ต้นๆๆที่ยังไม่มีสกุลเงิน ไปไหนยังเดินเท้าอยู่เลยลุง ลุงต้องหลงยุคมาแน่เลย ความคิดลุงนี่ มันคงมากจากพุทธกาลแน่เลย ยุคนี้ยุคดิจิตอลแล้ว ค่ะ โอ้ย!!! เหนื่อยใจจัง

            ศัทธาแรงกล้า บารมีคุ้มกาย: ถ้าพระไม่ต้องมีเงินดีครับ..แต่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถ ค่าเล่าเรียน ของพระภิกษุ สามเณร เครื่องบริขารต่างๆ หากจำเป็นต้องใช้ บางครั้งต้องซื้อ และพระหนึ่งวัดมีกี่รูป ทั่วประเทศ ล่ะมีเท่าไหร่ใครจะคอยไปเป็นธุระให้ บางครั้งพระต้องไปซื้อเองหรือท่านจะอาสาพูดง่ายๆ คิดให้ลึกๆหน่อย ผมอยากเสนอค่าใช้จ่ายสำหรับพระ เณร การศึกษา รัฐควรจะเข้ามาดูแลให้มากกว่านี้

            Sakorn Jansamud: ส.ศิวรักษ์ น่าจะมาบวชเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา แล้วทำได้อย่างสมองคิด &ปากพูด ก็น่าจะเป็นบุญแก่พระศาสนายิ่งนัก ลูกหลาน ส.ศิวรักษ์ ที่มาบวช พากันบวชได้กี่พรรษา ทำได้อย่างที่พูดไหม  สมัยนี้...แค่พระลืมจ่ายค่าน้ำค่าไฟ 15 วัน การไฟฟ้ามาตัดไฟที่กุฏิแล้ว  นี้ไม่ใช่สมัยกรุงศรีอยุธยา โลกมันหมุนไปไวกว่าที่คิด ท่านอย่าเดินย่ำอยู่กับที่ ทางไหนที่มันไม่แย่จนเกินไป ถ้าจำเป็นที่จะต้องเดิน พระสงฆ์องค์เณรท่านก็ต้องเดิน เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระศาสนา

            Apichai Mittparian: ทำอะไรให้แตกต่าง แล้วอวดโว ดีวิเศษกว่า ทั้งหลายล้วนเปลือก ที่หามาเติมแต่ง...แทนที่จะเข้าใจ แท้จริงชี้แนะอะไร ไปกำหนดอะไรให้กดตัวให้จมดิ่ง มากกว่าการปล่อยวางให้ลอยตัว...ขำๆ ความโง่เขลา ที่พยายามให้โดดเด่น เหนือธรรมชาติ...หมา แมว ทำตามธรรมชาติ แค่เลียขนก็สะอาดแล้ว..


ที่มาของภาพประกอบ: http://bit.ly/1S2AJkX

อ่าน 8,705 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved