ดร.โสภณ ตั้งข้อสังเกตว่าคนรวยในสังคมเปรียบคนจนและสังคมไทยโดยรวมเพราะไม่ยอมเสียภาษี
เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 11:00 น. ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้ FB Live เรื่องคนรวยเอาเปรียบสังคมมาโดยตลอด
ดร.โสภณ ให้ข้อคิดเห็นไว้ดังนี้:
1. คนรวยๆไม่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ไม่มีภาษีกำไรจากราคาที่ดิน ส่วนภาษีมรดกที่ออกมาก็ดูคล้ายไม่อยากเก็บจากคนรวยโดยแทบไม่มีใครเสียภาษีมรดกเลยแม้ภาษีนี้จะออกมาเป็นปีแล้วก็ตาม
2. อย่างไรก็ตามทุกคนล้วนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เจ้าของกิจการต่างๆ ก็มีทางเลี่ยง โดยโยนภาระต่อไปจนถึงผู้บริโภคเป็นกลุ่มสุดท้าย อย่างนั้นแล้วผู้บริโภคซึ่งก็คือประชาชนทั่วไป จึงเป็นผู้เสียภาษีเป็นหลัก
3. ในช่วง 24 ปีที่ผ่านมา (ปี 2537-2561) ราคาที่ดินย่านสยามสแควร์ ชืดลม เพลินจิต และนานา ราคาเพิ่มถึงราว 5 เท่า ยกเว้นที่ดินสวนชูวิทย์เพิ่มถึง 10 เท่าซึ่งเป็นข้อยกเว้น (http://bit.ly/2hJLNaB) ถ้ามีการเสียภาษีตามอารยสากล ประเทศไทยจะเจริญกว่านี้มาก
4. ถ้ามีภาษีกำไรของอสังหาริมทรัพย์เช่นที่ดินแปลงหนึ่งที่ตั้งอยู่ใจกลางเพิ่มจาก 1,000 ล้านบาทเป็น 5,000 ล้านบาทในรอบ 24 ปีที่ผ่านมา เมื่อขายควรเสียภาษีจากกำไร (4,000 ล้านบาท) ในสัดส่วน 20% (สมมติ) ก็จะเสียถึง 800 ล้านบาท แต่คนรวยในไทยไม่เคยเสีย เงินเหล่านี้เอาไปพัฒนาท้องถิ่นยากจน ช่วยโรงพยาบาลได้มากกว่าที่คุณตูนทำมาเป็นร้อยเป็นพันเท่า
5. ถ้ามีภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในกรณีสวนชูวิทย์ ที่ไม่เคยเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาบำรุงท้องถิ่นเลย ก็จะกลายเป็นว่า “ชูวิทย์เป็นหนี้แผ่นดินอยู่ 961 ล้านบาท!” (https://goo.gl/2HPNJR) ภาษีนี้จะช่วยให้ในท้องถิ่นเองมีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ก็จะยิ่งเพิ่มพูน
6. ยิ่งถ้ามีการเก็บภาษีมรดกอย่างจริงจังไทยก็จะมีงบประมาณมากนะประเทศอีกมากมาย
ดร.โสภณ ให้ข้อคิดเพิ่มเติมว่าคนรวยมุ่ง “ตอบแทนสังคม” ด้วยการบริจาค ในงานการกุศลต่างๆ เช่นการบริจาคผ่านคุณตูน เป็นต้น แต่เงินบริจาคเป็นแค่กับพี่กริ๊งเมื่อเทียบกับภาษีที่สมควรเสียแต่ไม่ได้เสีย การบริจาคยังทำให้ได้ชื่อเสียง ได้หน้าได้ตา ได้ลาภยศสรรเสริญ สร้างคอนเนคชั่น โดยที่คนจนยังถูกเอาเปรียบอยู่เช่นเดิม
เราควรเสียภาษีเพื่อความเป็นธรรมในสังคม