ห้างหรูสุด ๆ ขายของตกต่ำ สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่สุดดิ่งเหว ทุกฝ่ายพึงสังวร เพื่อหาทางแก้ไข มาดูว่าสินค้าใดขายได้และขายไม่ได้

            เมื่อวานนี้ (9 เมษายน 2561) ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.ara.co.th) ได้รายงานผลการสำรวจห้างสรรพสินค้าชื่อดัง (https://bit.ly/2EtZdQc) คือห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ห้างเทอร์มินอล 21 อโศก ห้างสยามพารากอน และห้างเอ็มควอเทียร์ โดยให้ผู้ค้าเทียบการค้าระหว่าง 1 ปีที่ผ่านมา

            ผลการสำรวจพบว่าคะแนนเฉลี่ยที่ได้ก็คือ 4.6 จาก 10 หากนำห้างเทอร์มินอล 21 อโศก ซึ่งเป็นห้างที่ไม่ได้มีลูกค้าที่มาเดินถึงระดับสูงสุดจริง ๆ ออกไป คะแนนเฉลี่ยก็เพิ่มมาอยู่ที่ 4.8 จาก 10 และถ้านำเซ็นทรัลเวิลด์ออกไปอีก คะแนนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.9 เต็ม 10 แสดงว่าขนาดห้างชั้นสุดยอด ยังแย่ แต่บางท่านอาจมีข้อถกเถียง

            1. คนลดไปห้างเพราะซื้อของออนไลน์ ข้อนี้คงไม่จริงสำหรับห้างหรูเลิศเหล่านี้ และในห้างเหล่านี้ยังมีผู้ไปจับจ่ายสินค้าและบริการอื่น นอกจากของที่ขายแบบออนไลน์

            2. คนรวยๆ ไปซื้อของที่ต่างประเทศแทนซื้อในห้างดังๆ กรณีนี้ก็ไม่จริง เพราะคงไม่ได้มีใครไปบ่อยๆ แต่สินค้าหรูที่ขายในประเทศเอง ก็มีสนนราคาไม่แตกต่างจากต่างประเทศมากนัก

            ดังนั้นขนาดห้างดังๆ หรูเลิศที่สุดในประเทศไทย คือ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี สยามพารากอน และเอ็มควอเทียร์ ก็ยังดำเนินการได้ในระดับปานกลาง ยิ่งเป็นห้างใจกลางเมืองสำหรับกลุ่มผู้ซื้อระดับ B, C ห้างชานเมือง และห้างในจังหวัดภูมิภาค สถานการณ์น่าจะย่ำแย่กว่านี้อีก นี่สะท้อนให้เห็นความสามารถในการซื้อที่ลดลงอย่างมาก แตกต่างจากที่ ดร.สมคิดพยายามจะ "โฆษณาชวนเชื่อ" ว่าเศรษฐกิจดี

            ถ้าตรวจสอบดูประเภทสินค้าในห้างดังที่ขายได้ดีได้แก่ รองเท้าหรู และสินค้าสุขภาพ ปรากฏว่าได้คะแนนสูงสุด คือ 6 เต็ม 10 ส่วนเครื่องสำอาง เหล้า-ไวน์ กล้อง เสื้อผ้า ภัตตาคาร และน้ำหอม ถือว่าขายดีเช่นกัน โดยได้คะแนนเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่ 5.0 จะสังเกตได้ว่าสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นสำคัญที่ขายได้ดี ในทางตรงกันข้าม สินค้าที่ขายได้ย่ำแย่ที่สุดประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ เกมส์-ภาพยนตร์ ซึ่งได้คะแนนต่ำมาก (ต่ำกว่า 4 เต็ม 10)

            เศรษฐกิจไม่ดีเป็นสิ่งที่โกหกกันไม่ได้ แต่จะทำอย่างไรให้ดีขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องว่ากันตามจริง ไม่ใช่ "ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ"