AREA แถลง ฉบับที่ 80/2554: 16 กันยายน 2554
กรณีศึกษาเมืองท่องเที่ยวของฝรั่งเศส
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ประเทศไทยควรพัฒนาเมืองท่องเที่ยวจากศิลปวัฒนธรรมของไทย เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยศึกษาได้จากเมืองโคลมาร์ของฝรั่งเศส
โคลมาร์ (Colmar) เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็ก ๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ใกล้ชายแดนเยอรมนี ถือเป็นคอมมูน (Commune) ในเขต Haut-Rhin ในจังหวัด Alsace เมืองนี้มีขนาดเพียง 66.57 ตารางกิโลเมตร มีประชากร เพียง 66,000 คน หรือมีความหนาแน่นเพียง 1,000 คนต่อตารางกิโลเมตร แม้รวมเขตปริมณฑลด้วย ก็จะมีประชากรเพียง 120,000 คน เมืองนี้มีอายุกว่า 1,100 ปีแล้ว ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา บางช่วงก็อยู่ภายใต้การปกครองของเยอรมนี บางช่วงก็เป็นของฝรั่งเศส
สาเหตุที่เมืองนี้เหมาะแก่การท่องเที่ยวเพราะมีอาคารในประวัติศาสตร์ตามศิลปะของฝรั่งเศส และศิลปของเยอรมนีอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นอาคารที่รอดพ้นจากการทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะในสมัยนั้นเยอรมนีได้ยึดพื้นที่นี้ไว้
เมืองโคลมาร์มีภูมิอากาศดี คือมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-26 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีลำคลองไหลผ่านจนได้ชื่อว่าเป็น ‘Little Venice’ หรือเมืองเวนิช (อิตาลี) จำลองขนาดเล็กในฝรั่งเศส ในด้านการคมนาคมเมืองโคลมาร์ยังมีสนามบินขนาดเล็ก และมีรถไฟวิ่งผ่าน อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ในด้านเศรษฐกิจ กิจกรรมเศรษฐกิจสำคัญของเมืองโคลมาร์ก็คือการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งตั้งอยู่ในเมืองนี้ เช่น บริษัทยาชื่อดังของโลก เป็นต้น รวมทั้งมีสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ ที่ทำให้เมืองนี้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย
ในด้านอสังหาริมทรัพย์ ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองโคลมาร์ ตกเป็นเงินประมาณ 91,500 บาท/ตารางเมตร สำหรับบ้านขนาด 3 ห้องนอน ราคาตกเป็นเงินประมาณ 10.4 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นห้องชุดพักอาศัยขนาด 2 ห้องนอนก็มีราคาประมาณ 5.95 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของบริษัทนายหน้าในเขตใจกลางเมืองที่พบประมาณ 10 แห่ง ปรากฏว่า บางแห่งก็ปิดกิจการไปก็มี จากความเห็นของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ พบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองโคลมาร์ก็เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ ในฝรั่งเศสและยุโรปโดยรวม กล่าวคือ ราคาที่อยู่อาศัยตกต่ำลง แม้เมืองนี้จะเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการตกต่ำของราคาที่อยู่อาศัยทั่วทั้งยุโรปเช่นกัน
ในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างขนานใหญ่ในยุโรป (พ.ศ.2542-2549) ราคาอสังหาริมทรัพย์เติบโต และมีการเปิดรถไฟฟ้าด่วน ซึ่งมีชื่อย่อตามภาษาฝรั่งเศสว่า TGV) จากกรุงปารีส ไป นคร Strasburg ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในจังหวัดที่เมืองโคลมาร์ตั้งอยู่ โดยรถไฟนี้จะผ่านเมืองโคลมาร์ รถด่วนสายนี้ทำให้การเดินทางจากกรุงปารีสมาเมืองนี้ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้น จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองโคลมาร์และเมืองอื่น ๆ ในจังหวัดนี้ อย่างไรก็ตามพอเศรษฐกิจตกต่ำ สาธารณูปโภคเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญอะไรนัก
การพัฒนาเมืองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวคล้ายเมืองโคลมาร์เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ในกรณีประเทศจีน ได้ก้าวล่วงไปกว่านี้อีก โดยได้จำลองเมือง Thames Town ใกล้ฝั่งแม่น้ำเทมส์ ในอังกฤษ ไปไว้ที่แม่น้ำแยงซีเกียง ใกล้นครเซี่ยงไฮ้ และยังจำลองเมือง Hallstatt ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญในประเทศออสเตรีย ไปไว้ในมณฑลกวางตงอีกต่างหาก การนี้อาจสร้างความขุ่นเคืองกับเมืองทั้งสอง แต่ก็ถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะชาวจีนที่ไม่สามารถไปเที่ยวเมืองท่องเที่ยวจริงในยุโรป ก็สามารถไปเยือนเมืองเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ยังเป็นฉากสำหรับการจัดงานแต่งงาน ซึ่งดำเนินการอย่างเอิกเกริกในประเทศจีน
สำหรับประเทศไทย ควรพัฒนาหมู่บ้าน ตำบล หรือเมืองท่องเที่ยวเอาไว้ต้อนรับคนไทยและชาวต่างประเทศ โดยอาจออกมาเป็นรูปแบบ ‘หนึ่งอำเภอ หนึ่งเมืองท่องเที่ยว’ ก็อาจจะเป็นทางออกที่ดี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ไทยอาจไม่มีอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ แต่มีประเพณีที่สืบทอดมาเก่าแก่ หรือมีการต้อนรับที่อบอุ่น สามารถขายทุนทางสังคมเหล่านี้ได้เช่นกัน
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |