ในเดือนมิถุนายน อสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการเปิดตัวกระเตื้องขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในเดือนนี้มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 43 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 21 โครงการ (เดือนพฤษภาคมมี 22 โครงการ) ซึ่งทำให้มีจำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการเพิ่มขึ้นในเดือนนี้ และลักษณะการพัฒนาเป็นการพัฒนาในกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด 42 โครงการ และเป็นการพัฒนาเชิงพาณิชย์ (โฮมออฟฟิศ) อีก 1 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 11,391 หน่วย มีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 45,751 ล้านบาท
ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้เป็นอาคารชุด โดยมีจำนวนหน่วยเปิดขาย 7,279 หน่วย (63.9%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ 2,090 หน่วย (18.3%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านบ้านเดี่ยว 1,384 หน่วย (12.1%) ทำเลที่มีการเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่ในเดือนนี้ สำหรับอาคารชุดจะตั้งอยู่ในบริเวณย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) เขตเมืองชั้นกลาง ส่วนต่อขยายแนวรถไฟฟ้า และรอบนอกบางส่วน มีโครงการตั้งอยู่ในเขตย่านธรุกิจใจกลางเมือง (CBD) 5 โครงการ เช่น ถนนสาทร ถนนพระราม 9 ถนนรัชดาภิเษก ถนนสุขุมวิท (เอกมัย) กรุงเทพชั้นกลาง 4 โครงการ เช่น ถนนวิภาวดี ถนนลาดพร้าว ถนนพหลโยธิน ถนนสทุธิสาร
นอกจากนี้ทำเลย่านส่วนต่อขยายแนวรถไฟฟ้า 4 โครงการ และปริมลฑลเมืองรอบนอก มีเปิดตัว 2 โครงการ บ้านเดี่ยวจะตั้งอยู่บริเวณส่วนต่อขยายเมือง เช่น ถนนพัฒนาการ ถนนติวานนท์ ถนนไทรม้า และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ส่วนทาวน์เฮ้าส์ที่มีการเปิดใหม่ในเดือนนี้อยู่ในย่านกรุงเทพชั้นกลาง 1 โครงการ บริเวณถนนลาดพร้าว (ซอยนาคนิวาส) แต่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองชั้นกลาง ส่วนต่อขยายรอบนอก เช่น บริเวณถนนสุขาภิบาล 5 ถนนศรีนครินทร์ ถนนเพชรเกษม เป็นต้น และตั้งอยู่ในย่านรอบนอกบางส่วน
เดือนนี้ภาพรวมโครงการเปิดขายใหม่มีจำนวนหน่วยขาย และมูลค่าเพิ่มขึ้น และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยค่อนข้างมาก ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้น (ประมาณ 39.0%) เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายอาคารชุดที่มีราคาขายอยู่ในช่วงระดับราคา 5-10 ล้านบาท เปิดขายอยู่ประมาณ 14.4% นอกจากนี้ที่อยู่อาศัยประเภทอื่นที่เปิดขาย ส่วนใหญ่เปิดขายในระดับราคาช่วง 2-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท โดยเปิดขายรวมกันอยู่ 60.5% จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 4.176 ล้านบาท เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.000 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางเป็นสำคัญ
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 13 บริษัท คือ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัทในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์อีก 5 บริษัท และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์อีก 16 บริษัท
หากพิจารณาจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวในเดือนมิถุนายนของปีนี้เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาจะพบว่า ในปีนี้มีจำนวนโครงการมากกว่า 21 โครงการ (95%) มีจำนวนหน่วยขายมากกว่า 5,699 หน่วย (99%) และมีมูลค่าโครงการมากกว่า 30,408 ล้านบาท (177%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.950 ล้านบาท เป็น 4.176 ล้านบาท (6%) และหากพิจารณาภาพรวมใน 6 เดือนแรก 2561 (มกราคม-มิถุนายน 2561) เปรียบเทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2560 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 173 โครงการ (ลดลง -13%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 43,703 หน่วย (ลดลงประมาณ -20%) มีมูลค่ารวม 173,015 ล้านบาท (ลดลง -9%) แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก 3.499 ล้านบาทเป็น 3.959 ล้านบาท (13%)
อย่างไรก็ตามในเดือนมิถุนายนนี้ทาง REI ได้พบโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่รอเปิดขายใหม่ในอนาคตอีก 370 โครงการตามตารางที่ 3 โดยได้แสดงชื่อโครงการ และที่ตั้งโดยสังเขปไว้ ซึ่งความคืบหน้าจะได้นำเสนอต่อไป จะสังเกตได้ว่ามีโครงการหลายแห่งที่ได้ประกาศตัวหรือเปิดตัวทางหน้าหนังสือพิมพ์ อย่างไรก็ตามในการเปิดขายจริง (ที่มีโบรชัวร์และสำนักงานขายที่พร้อมต้อนรับผู้สนใจซื้อไปเยี่ยมชม) ยังไม่มี จึงถือเป็นโครงการที่ยังไม่เปิดตัวและเมื่อเปิดตัวจริงแล้ว จะได้ดำเนินการสำรวจต่อไป