AREA แถลง ฉบับที่ 95/2554: 21 ตุลาคม 2554
รายงานสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 3/2554
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ในรอบ 9 เดือนแรกของ พ.ศ.2554 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่เกิดขึ้นรวมกันถึง 68,640 หน่วย รวมมูลค่าถึง 203,451 ล้านบาท โดยแทบทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัย และเป็นห้องชุดพักอาศัยถึง 47% อย่างไรก็ตามแนวโน้มปี 2554 น่าจะหดตัวลงกว่าปี 2553 ถึง 22% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพื่อเลี่ยงภาวะวิกฤติ
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ได้แถลงว่า ในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2554 มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นทั้งหมด 68,640 หน่วย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดย 99.6% เป็นที่อยู่อาศัย มีอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นน้อยมาก หากพิจารณาถึงมูลค่าตลาด พบว่ารวมเป็นเงินถึง 203,451 ล้านบาท โดย 98.9% ของทั้งหมดเป็นที่อยู่อาศัย โดยเฉลี่ยแล้วที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่เปิดใหม่มีราคาเป็นเงินหน่วยละ 2.944 ล้านบาท
ที่อยู่อาศัยที่มีการพัฒนามากที่สุดก็คือห้องชุด มีจำนวนถึง 32,321 หน่วย หรือเป็นประมาณ 47% ของอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 27% เป็นบ้านเดี่ยว 20% ส่วนที่เป็นบ้านแฝด และห้องชุดมีอีกประมาณ 3% และ 2% ตามลำดับ ที่อยู่อาศัยทั้งหมดกลุ่มใหญ่ที่สุดมีราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 23,362 หน่วย หรือ 34% ของทั้งตลาด และหากนับรวมที่อยู่อาศัยที่ขายในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทด้วยแล้ว จะมีจำนวนถึง 48% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่นำเสนอขายในช่วง 9 เดือนแรกของ พ.ศ.2554
เมื่อพิจารณาเจาะลึกในรายละเอียด ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า กลุ่มหลัก ๆ ที่มีการพัฒนากันในที่อยู่อาศัยแต่ละประเภทประกอบด้วย ห้องชุดราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 12,153 หน่วย ทาวน์เฮาส์ราคา ราคา 1-2 ล้านบาท จำนวน 10,347 หน่วย บ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท จำนวน 8,216 หน่วย บ้านแฝดราคา 2-3 ล้านบาท จำนวน 1,267 หน่วย
สำหรับการขายพบว่า ห้องชุดที่เปิดมาทั้งหมด 32,321 หน่วยนั้น ขณะนี้มีผู้จองซื้อไปแล้วถึง 47% แสดงว่ามีความต้องการสูงมากสำหรับห้องชุด โดยเฉพาะห้องชุดที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท และกลุ่มห้องชุดคุณภาพที่มีราคา 5-10 ล้านบาท และ ณ ระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป ก็มีผู้จองซื้อไปเกินครึ่งหนึ่งแล้วทั้งที่เปิดขายมาเพียงไม่ถึง 9 เดือน ส่วนที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ ก็สามารถขายได้แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะกลุ่มบ้านเดี่ยวอาจขายได้เพียง 21% ในช่วงแรก อย่างไรก็ตามสินค้าบ้านเดี่ยวมีราคาแพงกว่าสินค้าอื่น จึงมีอัตราการขายที่ช้ากว่า แต่ก็ไม่ได้สะท้อนว่ามีปัญหาในการขายแต่อย่างใด
หากพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พยากรณ์ว่าในปี 2554 ทั้งปีน่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ 91,184 หน่วย รวมมูลค่า 268,405 ล้านบาท ซึ่งแสดงว่าลดลงในแง่จำนวนหน่วยถึง 22% ส่วนในแง่มูลค่าลดลงไป 11% กรณีนี้ถือเป็นการปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เกรงว่าจะมีการก่อสร้างจนมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา และหากพิจารณาประกอบกับปัญหาน้ำท่วม ก็จะพบว่าตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2554 โดยรวมและในปี 2555 อาจจจะหดตัวลง
แม้เมื่อหลังน้ำท่วม อาจมีกิจกรรมก่อสร้างเพิ่มเติมแต่ก็การฟื้นฟูจากภาวะน้ำท่วม ไม่ใช่การก่อสร้างใหม่ และอาจเกิดความต้องการซื้อห้องชุดใจกลางเมืองเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็คงไม่ได้คึกคักมากนัก เพราะเศรษฐกิจใน พ.ศ.2555 อาจเสื่อมทรุดลงเนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบกระเทือนเป็นอย่างมากจากภาวะน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงมีโอกาสที่ความสามารถในการซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวลงอย่างรุนแรงใน พ.ศ.2555
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน |