AREA แถลงฉบับนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th)
ข้อเสนอถึงพวกคิดรื้อ “หมู่บ้านป่าแหว่ง”
1. ทุกวันหาอาสาสมัครผลัดละ 3 คน ผลัดละ 2 ชั่วโมง (ใช้แค่ 36 คนเท่านั้น) ไปยืนหน้าทางเข้าหมู่บ้านที่ห้ามคนนอกเข้า ถือป้ายเรียกร้อง ถ้ามีใครเข้าออกไปอยู่อาศัยก็กราบขอร้องให้ล้มเลิกเสีย และควรมีอาสาสมัครขึ้นไปที่ป่าสังเกตการณ์การอยู่อาศัยด้วย
2. ทุกวันหาอาสาสมัครกลุ่มละ 2 คน สัก 10 กลุ่ม หมุนเวียนเข้าไปเยี่ยมผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลที่สำนักงานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อขอความเมตตาล้มเลิกความคิดในการอยู่ในหมู่บ้านนี้เสีย ถ้าพบตัวที่ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ก็เข้าไปกราบขอร้องบ่อยๆ
3. ตกเย็นจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หน้าหมู่บ้านป่าแหว่งเพื่อกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา
4. จัดสัมมนาวิชาการในรั้วมหา’ลัย จะได้ไม่เป็นการชุมนุมทางการเมืองสัปดาห์ละครั้ง เชิญตัวแทนของศาลมาร่วมทุกครั้ง ส่วนท่านจะไม่ว่างทุกครั้งก็ยังให้เกียรติเชิญเสมอ
5. ไม่ใช่ค้านเฉพาะพื้นที่บ้านเดี่ยว 45 หลัง แม้แต่ส่วนที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยรวมก็ต้องค้านด้วย หาไม่จะเป็นการถอยร่นทางความคิดอย่างไม่เป็นกระบวน
6. เมื่อเขายอมไปแล้ว ก็เรียกร้องให้บิ๊กตู่ออก ม.44 ให้กรมธนารักษ์เจ้าของพื้นที่นำออกประมูลเป็นโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักผู้สูงวัย เพื่อหารายได้ ซึ่งคาดว่าจะได้ราวปีละ 90 ล้าน นำเงินไปปลุกป่าได้ปีละ 8,212 ไร่ หรือ 657 ตารางกิโลเมตร หรือเอาไปใช้ปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า เมื่อเช่าครบ 50 ปี (ขนาดใหญ่กว่าจังหวัดนนทบุรีทั้งจังหวัดเสียอีก