ตามที่ผมถามว่า "Terminal 2: จะไปตัดไม้ทำลายป่าจากไหน" (http://bit.ly/2xFAvM7) โดยผมบอกว่า "ไม้เป็นทรัพยากรหายากของชาติในขณะนี้ ถ้าต้องใช้ไม้มากมาย ก็เท่ากับต้องทำลายป่ามากมาย ถ้าไม้ในประเทศไม่พอก็ต้องไปตัดไม้ทำลายป่าในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรส่งเสริม ยิ่งกว่านั้นการใช้ไม้ยังอาจก่อให้เกิดการลุกลามของไฟเปิดไฟใหม่อีกด้วย" ผมยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม้ที่สนามบินออสโล (https://bit.ly/2xZvcGT) จะใช้ไม้ แต่ไม้เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ที่ส่งออกมากโดยประเทศนอรเวย์ (https://bit.ly/2IgtIMZ)
คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ท่านผู้ชนะการออกแบบ Terminal 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ได้กรุณาตอบผมว่า "ต้องรบกวน ดร.โสภณไปคุยกับคณะวนศาสตร์ ม.เกษตร ครับ เรามีป่าไม้เศรษฐกิจทั้งหมด 30 ล้านไร่ ทางคณะวนศาสตร์ออกมายืนยันตาม link ข้างล่าง ว่า 80,000 ลบ.ม. ของ Terminal 2 นี่ สบายมากครับ” ผมจึงตอบท่านไปว่า ในข้อมูลปี 2560 ล่าสุด ผลิตไม้ซุงสักสวนป่าเพียง 61,518 ลบ.ม. เท่านั้น มีไม้ซุงอื่นจากสวนป่าอีกแค่ 12,853 ลบ.ม. (https://bit.ly/2OjpuJP) นี่ทั้งประเทศ ผลิต 1 ปี ยังไม่พอให้ใช้ใน Terminal 2 เลย คนอื่นไม่ต้องใช้กันพอดี ยิ่งเมื่อสืบค้นไปในปีก่อนหน้านี้ ยิ่งผลิตน้อยกว่าปีล่าสุดเสียอีก แต่ถ้าจะให้พอเพราะอุปสงค์มาก คงมีการแอบตัดไม้ทำลายป่ากันยกใหญ่หรือไม่ (http://bit.ly/2xSJmKH)
อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณดวงฤทธิ์พูดไปนั้นออกนอกเรื่อง ความจริงก็คือคุณดวงฤทธิ์บอกว่า "ไม่ใช่ไม้สักนะ แพงไป ที่วางไว้เป็นไม้ตระกูลซีดาร์ หรือ สน ซึ่งมีทั้งที่ญี่ปุ่น อเมริกา สวีเดน หรือแม้กระทั่งออสเตรีย" (https://bit.ly/2o8gKru) นี่แสดงว่าคุณดวงฤทธิ์ไม่ได้คิดใช้ไม้ (สัก) ในประเทศ แต่ผ่าให้ผมไปถาม ออป. ทำไม ที่สำคัญก็คือ เราใช้ไม้จากต่างประเทศ แล้วจะส่งเสริมความเป็นไทยไปได้อย่างไร เราต้องเสียดุลการค้านำเข้าไม้ถึง 80,000 ลบ.ม. เพื่อการใช้สร้างสนามบินนี้ ทำไมไม่ใช้วัสดุในประเทศ เช่น ไม้ยางพารา ไม้จากผักตบ ไม้อัดที่มีอยู่ในประเทศแทน
ต่อไปนี้เป็นประเด็นที่ผมขอเห็นต่างจากคุณดวงฤทธิ์
1. เรื่องต้นทุนในการดูแลรักษา คุณดวงฤทธิ์เคยตอบว่า "เป็นเรื่องที่คิดไปเองครับ (หัวเราะ) คนพูดไม่เคยทำ อยากให้คนที่ออกมาพูดขอให้เป็นคนที่มีความรู้มากพอ เพราะการออกแบบสนามบินเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ จะเอาไปเปรียบเทียบกับการดูแลบ้านไม่ได้ คนละเรื่องกัน" (https://bit.ly/2N6foY8) แต่คำตอบของคุณดวงฤทธิ์ดูเป็นการ "เลี่ยงบาลี" เพราะเห็นชัด ๆ อยู่ว่าการสร้างป่าถึง 16,000 ตร.ม. มีต้นทุนค่าดูแลทำความสะอาดต่างๆ ของป่าใหญ่ขนาดนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จะแพงกว่าสนามบินปกติมาก
2. การตัดต้นไม้จะเป็นการรักษาระบบนิเวศได้อย่างไร เราควรรักษาป่ามากกว่า แต่แน่นอนว่า เราจะต้องใช้ไม้ในคราวจำเป็นโดยเฉพาะป่าปลูกภาคเอกชน ส่วนภาครัฐควรเก็บรักษาไม้ไว้ได้นับพันๆ ปีดีกว่าจะตัดมาใช้
3. ที่ว่า "วัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก หิน ปูน ทราย มาจากพื้นดินใช้แล้วก็หมดไป แต่ไม้สามารถปลูกทดแทนได้" ข้อนี้เป็นเท็จหรือไม่ ถ้าคิดอย่างนี้เอาไม้ป่ามาผลาญ ป่านนี้ไม่หมดไปนานแล้ว แต่การนำอิฐ หิน ปูน ทรายมาใช้มันก็ไม่ได้ย่อยสลายหายไปไหน ยังอยู่ดีและที่สำคัญทนทานนับร้อยปีเช่นกัน ในรอบ 60 ปีที่ผ่านการก่อสร้างด้วยอิฐหินปูนทราย ช่วยลดการทำลายป่าได้มหาศาล ประเทศไทยมีอิฐหินปูนทรายมหาศาล ราคาถูก ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด
4. ที่ว่ามีการผลิตไม้ทั้งยุโรปตอนเหนือ อเมริกา และญี่ปุ่น นี่เรากำลังส่งเสริมการเสียดุลการค้าหรือไม่
การใช้ไม้สนต่างประเทศมาทำสนามบินเป็นการเชิดชูป่า เชิดชูไทยได้อย่างไร อิฐหินปูนทรายของไทยถูกและมีมหาศาล ควรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เลิกคิดใช้ไม้โดยไม่จำเป็นได้แล้ว
ที่มา: https://www.khaosod.co.th/wp-content/uploads/2018/09/546498.jpg