'เพลง: แร็พ Thailand 4.0' โกหกหรือเปล่า
  AREA แถลง ฉบับที่ 526/2561: วันพุธที่ 07 พฤศจิกายน 2561

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4

          'เพลง: แร็พ Thailand 4.0' พูดความจริงแค่บางส่วน Market Niche ใช้ได้เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่เฮโลพากันลงเหวได้ คนไทยจะดีขึ้น รวยขึ้น ต้องมีระบอบการปกครองที่ดีตามอารยะสากลต่างหาก

          ที่ว่า "อยากเท่ อยากสวย อยากรวย ไม่มีหมูในอวย ต้องทำขึ้นทำขึ้น" มีคนไทยทั่วไปทำขึ้นได้จริงหรือ มีแต่คนรวยๆ ที่รวยขึ้นๆ เช่น คุณวิชัย วิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ปี 2561 นี้รวยเป็นมูลค่า 5,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (164,724 ล้านบาท: https://bit.ly/2F6QOaY) นั้น ในปี 2554 ท่านรวยมาก แต่ก็รวยเพียง 210 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น (https://bit.ly/2F3D6Wl) แสดงว่ารวยขึ้น 25 เท่าภายในเวลาเพียง 7 ปี หรือรวยขึ้นปีละ 58% โดยเฉลี่ย สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 7% อย่างเทียบกับไม่ติด แต่คนธรรมดามีโอกาสรวยขึ้นอย่างนี้หรือบรรดาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็คงหามีไม่ ค่าแรงขั้นต่ำก็แทบไม่ขึ้นเลย

          ใช่ว่า "โลกเรายังคงหมุนไป นวัตกรรมใหม่ ทำให้ไทยสู้ได้" นวัตกรรมหรือไอเดียใหม่ๆ นั้น ทำให้บางคนสู้ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนทำเลียนแบบแล้วจะสู้ได้เสมอไป  ที่ผ่านมามีอยู่ 2 กรณีที่นายกฯ สั่งแก้ไขปัญหาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง คือกรณีส่งเสริมให้ปลูกหมามุ่ยและกล้วยหอมทอง นี่แสดงว่าทีมงานนายกฯ ไม่ได้เข้าใจคำว่า Market Niche จึงเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

          เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ท่านนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา "แนะคนไทย 'อย่าโง่'ปลูกพืชกำไรน้อย หนุนปลูกพืชสมุนไพรสร้างรายได้ ชูแปรรูป 'หมามุ่ย' ราคาพุ่ง กก.ละ 8 หมื่น. . .วันนี้รัฐบาล ได้สนับสนุนการปลูกพืชสมุนไพร ในเมื่อเราไม่สามารถปลูกข้าวได้ ก็จะให้กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปดูแลว่าจะปลูกพืชสมุนไพรได้หรือไม่ (http://goo.gl/bhRnSL) กรณีนี้สะท้อนว่าท่านนายกฯ ยังไม่เข้าใจ Market Niche หรือการตลาดเฉพาะกลุ่ม

          อีกกรณีหนึ่งคือ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 นายกฯ ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์โดยแนะให้ชาวสวนยางพาราปลูกสตรอเบอรี่และกล้วยหอมในสวนยาง (http://bit.ly/1n71qIZ) อย่างไรก็ตามการปลูกสินค้าเฉพาะนี้ก็อาจยังไม่เสถียร ท่านจึงยัง "แนะนำให้หาวิธีการแปรรูปหลายอย่าง และขยายตลาดรองรับ (และ) . . . ยังแนะนำว่าหากมีปัญหาสามารถปรึกษาสหกรณ์จังหวัด" (http://bit.ly/1S7fmzg)

          สินค้าที่เป็น Market Niche หรือสินค้าที่มีความแตกต่างออกไป จึงเป็นสินค้าที่ลูกค้าสนใจเพราะเป็นการเริ่มต้นที่จำนวนน้อย ยังไม่มีคู่แข่งอื่นหรือมีคู่แข่งจำกัด เหมาะกับพื้นที่ดังกล่าว เช่น ในพื้นที่โดยรอบสถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งขึ้นใหม่ มักจะสร้างหอพักเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มเป้าหมายเฉพาะก็คือนักศึกษามหาวิทยาลัยนั่นเอง หรือพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้วัดที่มีผู้ไปทำบุญปฏิบัติธรรมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นจำนวนมาก ก็อาจมีการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรหรือห้องชุดที่รองรับผู้สนใจซื้อไว้ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง นอกจากนี้ยังอาจมีตัวอย่างของห้องชุดในพื้นที่ใกล้โรงเรียนมัธยมชื่อดังใจกลางเมือง ซึ่งสามารถจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวของเด็กนักเรียน เป็นต้น

          อย่างกรณี "หมามุ่ย" แม้ว่าสถานการณ์ตลาดจะดี แต่ก็เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่ชาวนาไทยทั้งมวล หรือใครต่อใครจะหันมาปลูกหมามุ่ยแทนข้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักได้ หรือแม้จะมีตลาดเฉพาะทางด้านอื่น ๆ นอกจากหมามุ่ย ก็ยังถือเป็นข้อยกเว้น และข้อยกเว้นคงไม่ใช่สรณะ (Exception cannot be made rule/norm) เพราะมีจำนวนลูกค้าจำกัด สินค้าอุปโภคบริโภคกับสินค้าเฉพาะทางคงทดแทนกันไม่ได้

          ยิ่งกว่านั้นท่านนายกฯ อาจไม่ทราบว่า "หมามุ่ย" ดังกล่าว มีสรรพคุณใช้เพื่อ "ช่วยปลุกเซ็กส์ มีเพศสัมพันธ์ได้มากขึ้น" ทั้งนี้เป็นผลการวิจัยมา 3 ปีแล้วของอาจารย์มหาวิทยาลัยของไทย (http://goo.gl/n2tXcm) นอกจากนั้นยังอาจใช้รักษาโรงพาร์กินสันได้ด้วย (http://goo.gl/yR7t8p) ท่านนายกฯ อาจไม่ทราบสรรพคุณของสมุนไพรชนิดนี้ซึ่งใช้กับคนเฉพาะกลุ่ม การที่คณะทำงานนำความมาแจ้งแก่นายกฯ ให้นำเสนอพืชสมุนไพรนี้ในฐานะสินค้า จึงอาจทำให้เสียภาพพจน์ของนายกรัฐมนตรีได้ด้วย

          ส่วนกรณีกล้วยหอมทองนั้น ปรากฏว่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เดิมในอำเภอท่าชนะ ก็เคยมีสินค้าโอทอปคือกล้วยหอมทอง โดยกลุ่มแม่บ้านกล้วยหอมทองเพื่อการส่งออก ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 195/264 หมู่ที่ 6 ต.คลองพา อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 84170 โดยได้รวมกันเองในหมู่บ้าน ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 52 คน และได้เลือกคณะกรรมการบริหารกลุ่มโดยได้ดำเนินการมานับสิบปีแล้ว สมาชิกแต่ละคนนำผลผลิตมารวมที่กลุ่มเพื่อเตรียมส่งออกประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่อาชีพหลักคือการทำสวนยางพารา (http://bit.ly/22OlPD0) จะนำอาชีพเสริมมาทดแทนอาชีพหลักคงไม่ได้

          ถ้าขืนไปส่งเสริมให้ใครต่อใครหันมาเลียนแบบกันทำตลาดแบบนี้ ก็จะพากันลงเหว "พาคนไปตาย" อย่างแน่นอน เพราะความพิเศษ ความโดดเด่น ลักษณะเฉพาะ ก็กลายเป็นลักษณะทั่วไปเพราะใครต่อใครหันมาทำแบบเดียวกันหมด ก็คงไม่มีความแตกต่าง และเต็มไปด้วยการแข่งขันและพากัน "เจ๊ง" กันไปหมดอย่างแน่นอน การแนะนำประชาชนไปในแนวทางเดียวกันแบบนี้จึงเป็นการสร้างความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง นี่จึงแสดงถึงความไม่รู้จริงของทีมงานนายกฯ จึงแนะนำให้ท่านเสนอแนะไปอย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง

          ที่ว่า "คนไทยเรามาชุมนุม มารวมความคิด ให้ใหม่ ให้ล้ำ คิดมันให้ไกลออกไป เราไปได้ไกล ถ้าเราร่วมมือ" อันนี้จริง คือเราต้องคิดแบบมีบูรณาการโดยคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดและแทบไม่มีสาระอะไรชัดเจน (http://bit.ly/2ysZHG2) แต่มาบังคับกับคนไทยทั้งประเทศโดยคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีส่วนรวม

          ประเทศไทยต้องมีประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่ไม้ประดับ  กฎหมายต่างๆ ก็ต้องออกมาปกป้องประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดกเพื่อลดความเหลื่อมล้ำก็ต้องมี ไม่ใช่ออกกฎหมายแบบเข้าข้างคนรวยเช่นทุกวันนี้โดยที่ประชาชนถูกเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา คนที่จะเป็น สว. ก็ต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่แต่งตั้งพรรคพวก อย่างนี้ก็เป็นบ่อเกิดของการทุจริตและประพฤติมิชอบที่ตรวจสอบได้ยาก

          ประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยสากล มีระบบเส้นสายแต่งตั้งมากมาย คนได้ประโยชน์ก็คือคนกลุ่มเดียว ปรากฏการณ์ที่ GDP เพิ่มขึ้นบ้าง แต่เป็นลักษณะรวยกระจุก จนกระจาย จะมีความหมายอะไรกัน

อ่าน 2,415 คน
2024 Copyright © by area.co.th All Rights Reserved