มีเรื่องเล่านิราศบาหลีซึ่งมีทั้งความพอเพียง เรื่องตลกๆ และเรื่องราวมันๆ สนุกสนานแน่นอน!
สืบเนื่องมาจากผมไปประชุมสมาคมอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ (FIABCI) ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียในระหว่างวันที่ 5-9 ธันวาคม 2561 จึงมีเรื่องหลากรสมาเล่าให้ฟัง โดยเรื่องแรกก็คือตั๋วเครื่องบิน ตามปกติผมก็จะซื้อในราคาประหยัดคือบินด้วยแอร์เอเซียจากกรุงเทพมหานครตรงไปบาหลีโดยไม่ขึ้นการบินไทยเพราะแพงกว่ามาก
สำหรับโรงแรมที่พักผมก็จองผ่าน booking.com โดยได้โรงแรมราคาถูกเพียง 2,000 บาทสำหรับ 3 คืน ซึ่งถูกกว่าโรงแรมที่จัดงานซึ่งมีสนนราคาคืนละ 8,000 บาท ส่วนโรงแรมใกล้เคียงที่สุดเช่นกันก็มีราคาระหว่าง 5,000-6,000 บาท โชคดีไม่มีใครถามว่าผมนอนที่ไหน แต่ถ้าใครถาม ผมก็ตอบส่งเดชแบบ White Lie ไปเลยว่านอนโรงแรมจัดงานนั่นแหละ (สอดรู้สอดเห็นดีนัก ฮา) พอถึงวันสุดท้ายนักศึกษาที่เขาจ้างชั่วคราวมาช่วยงานลงทะเบียนในงานประชุม บอกว่าเห็นผมนอนโรงแรมเดียวกับเขา ผมก็ยิ้มรับความจริง
ผมเดินทางไปคนเดียวก็พกของไปน้อยครับ จะได้ขนไม่ลำบาก ระหว่างประชุมผมก็เดินจากโรงแรมที่พักถึงที่จัดประชุมเที่ยวละ 14 นาที เดินวันละหลายเที่ยว ก็ดีที่ได้ออกกำลังกาย และด้วยการเดินนี่แหละจึงทำให้ผมได้จัดทำคลิปชมตลาดสด เพื่อให้เห็นชีวิตแบบบ้านๆ ของชาวบาหลี ซึ่งก็มีสภาพคล้ายครึ่งกับบ้านเรา
พอถึงวันกลับ ปรากฏว่ามีงานเลี้ยงอำลา ตอน 18:00-20:00 แต่ผมไม่อยากรับประทานมาก กลัวอ้วน (ไปกว่านี้) เลยนั่งไตร่ตรองดูว่าจะเดินไปสนามบินเพื่อเป็นการออกกำลังกายจะดีไหม แต่ระยะทางไกลถึง 12 กิโลเมตร (ไกลกว่ามินิมาราธอน) Google บอกเดิน 2 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าผมเริ่มเดินตั้งแต่ 17:30 ก็คงถึง 20:30 ผมนั่งทำใจอยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเดิน
ระหว่างทางเดินก็หยุดถ่ายรูปเป็นระยะ และบังเอิญมาพบชายเร่ร่อนนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ผมในฐานะประธานมูลนิธิอิสรชนซึ่งช่วยเหลือคนเร่ร่อนในประเทศไทย ก็อดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือ เลยซื้อนมและอาหารจากร้านสะดวกซื้อ มอบให้ชายเร่ร่อนท่านนั้นซึ่งเขาก็ขอบคุณด้วยดี ผมก็ลาจากมาเดินทางต่อ
ตอนเดินช่วงแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะเดินถึงไหม เพราะอาจเป็นทางเปลี่ยวไม่ปลอดภัยที่จะเดิน แต่โชคดีที่ตลอดทางมีไฟฟ้าถนนเป็นอย่างดีและดูไม่เปลี่ยวมากนัก จึงสามารถเดินได้ในที่สุดเพียงแต่ในช่วงเกือบ 1 กิโลเมตรสุดท้ายกลายเป็นถนนยกระดับซึ่งห้ามคนเดินผ่าน ผมจึงต้องนั่งแท็กซี่ผ่านข้ามมาที่สนามบินในที่สุด
อันที่จริงก็คงดีที่ผมจะอยู่งานเลี้ยงเพื่อการกระชับสัมพันธ์กับชาวต่างประเทศ แต่ผมก็ได้ถกแถลงกับพวกนี้กันมาพอสมควรแล้ว จึงอยากทดสอบจิตใจและร่างกายว่าอายุ 60 ปีแล้ว ยังจะสู้เดินไหวหรือไม่ ถึงแม้ผมจะเป็นผู้บริหารที่มีทรัพย์เพียงพอที่จะเช่าโรงแรมหรู และมีบริการรถส่งฟรีถึงสนามบินก็ตาม แต่ผมก็อยากมีความประพฤติที่ติดดินและไม่กลัวความยากลำบาก จึงทำการเดินในครั้งนี้
ถึงจะแก่แล้วเรา มีฐานะ มีทรัพย์ศฤงคารแล้ว ก็ยังควรขัดเกลาจิตใจให้ไม่กลัวความยากลำบากและให้ติดดินอยู่เสมอ