ข่าวที่ว่า “ศศิน ยกนิ้ว! รัฐบาลแจกป่าอนุรักษ์ 5.9 ล้านไร่ เทียบทั้งหมดที่มี ‘ไม่กระทบ’” (https://bit.ly/2GFHGL5) . . . คิดได้ไง แม้นายศศินบอกต่อมาว่า “เขาแค่จัดทำแนวเขตชุมชนให้ชัด เป้าหมายคือแก้ปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่ขัดแย้งจับชาวบ้านกลางป่า มีข่าวรังแกคนยากจนที่อยู่มาก่อนหรือ อยู่มานานแล้ว และให้ชาวบ้านเองทราบแนวเขตที่ตกลงกันให้ชัดจะได้ไม่รุกเพิ่ม ถ้ามีรุกเพิ่มจากแนวนี้ก็จะจับกุมกันเคร่งครัด” (https://bit.ly/2EMUVb9)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะผู้รณรงค์เพื่อการสร้างเขื่อนแม่วงก์เพื่อสัตว์ป่า ป่าไม้และประชาชน ให้ความเห็นว่า ทัศนคติแบบนี้เป็นอันตรายต่อสังคม
1. การประกาศเขตป่ามีมานานแล้ว เช่น ปี 2497 โดยประชาชนที่อยู่ก่อนหน้าประกาศเขตป่า มีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะอยู่ได้และได้รับเอกสารสิทธิ์ แต่ก็มีการบุกรุกแผ้วถางป่าไม่หยุด จนมีการประกาศร่นเขตป่าอีกหลายครั้งจนถึงปี 2541 นี่แสดงว่าขืนรัฐให้สิทธิแก่ผู้บุกรุกอีก ก็คงยิ่งบุกรุกไม่หยุด ประชาชนที่ตกสำรวจที่ควรได้สิทธิเป็นเพียงส่วนน้อย ไม่ควร “เหมาเข่ง” ยกให้หมด
2. การเฉือนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 5.9 ล้านไร่จาก 80 ล้านไร่ออกมา คิดเป็น 7.4% ของทั้งหมด นับว่ามหาศาล มีขนาดเท่ากับ 6 เท่าของกรุงเทพมหานคร ในขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีประชากรรวมกันนับสิบล้านคน แต่ให้ผู้บุกรุกป่าอยู่กันน้อยกว่ามาก
3. ผู้บุกรุกป่าเหล่านี้เอาเปรียบสังคมหรือไม่ พวกเขาส่วนใหญ่บุกรุกป่ามาไม่เกิน 40 ปี กลับได้ที่ดินทำกินฟรีๆ อันที่จริงควรคิดว่าตนอยู่ฟรีมานาน ควรคืนหลวงได้แล้ว ป่าไม้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นของประชาชนโดยรวม เลิกทำตัวแบบ “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” เสียที
4. เป็นการส่งเสริมให้เกิดการบุกรุกทำลายป่ามากขึ้นเรื่อยๆ เข้าทำนอง “ได้คืบเอาศอก” การฝากป่าไม้ไว้กับผู้บุกรุกป่า เสมือนการ “ฝากเนื้อไว้กับเสือ” “ฝากปลาย่างไว้กับแมว” นั่นเอง ที่ว่าจะมีการจัดกุมผู้บุกรุกในอนาคต นายศศินรับประกันแทนรัฐที่หละหลวมได้หรือ เพราะในปีหนึ่งๆ ไทยสูญเสียพื้นที่ป่าไม้นับล้านไร่อยู่แล้ว (https://bit.ly/2zLtXuW)
5. ในยุคสมัยนี้ การผลิตภาคการเกษตรก็สร้างรายได้ได้น้อย หนี้สินก็มหาศาล แต่กลับใช้ที่ดินมหาศาล นับว่าไม่คุ้มค่า หากฟื้นฟูป่าไม้ให้ดีดังเดิม จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่า
6. พวกนี้พอได้ที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายมา ก็คงขายหรือปล่อยเช่าทำรีสอร์ตแก่คนในเมืองและนายทุนต่อไป กลายเป็นการใช้ที่ดินผิดประเภทโดยไม่มีใครไปเหลียวแลเท่าที่ควร
7. หลักคิดแสนอันตรายของพวกเอ็นจีโอมักจะเอาใจกฎหมู่ เพื่ออ้างอิงว่าได้ทำดี สร้างประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งที่เป็นเพียงการเอาใจประชาชนส่วนน้อยหรือพวกกฏหมู่โดยไม่นำพาต่อกฏหมายบ้านเมือง แต่ฉกชิงประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ใช่ไหม
8. การแจกที่ดินแบบนี้ในช่วงเลือกตั้ง ถือเป็นการซื้อเสียงทางหนึ่งหรือไม่ การเอาผืนแผ่นดินไทยซึ่งประชาชนคนไทยทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันไปมอบให้กฏหมู่เพื่อแลกความนิยมส่วนตัวและพวกพ้อง เป็นการสมควรแล้วหรือ
ถ้าแก้ปัญหาอย่างนายศศิน ป่าจะยิ่งหดหายจนไม่เหลือหรอหรือไม่