เรารู้จักให้เกียรติคนอื่นมากน้อยแค่ไหน พอดีมีเหตุการณ์เกิดขึ้นเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องนี้ในวันใกล้เคียงกัน ผมเลยขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟัง โดยเล่าเรื่องด้วยภาพนะครับ
เมื่อวันพุธที่ 9 มกราคา 2562 ผมจัดประชุมสมาคมผู้ซื้อบ้านในฐานะที่ผมเป็นนายกสมาคมผู้ร่วมก่อตั้ง พอประชุมเสร็จสรรพก็ถ่ายรูป ผมก็ให้สุภาพสตรีที่เป็นกรรมการทั้งหลายมานั่งแถวหน้าเพื่อเป็นการให้เกียรติสตรีส่วนพวกเราที่เป็นสุภาพบุรุษก็อยู่ข้างหลังแทนแต่ก็มีบางครั้งที่ผมในฐานะนายกสมาคมนั่งและนั่งกลางเหมือนกันแต่หลายครังที่เรามักให้เกียรติแก่สตรีเป็นอันดับแรก
ปกติผมถ่ายภาพกับคณะกรรมการหรือคณะวิทยากรต่างๆ เช่นในงานเสวนาของมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยที่ผมมีฐานะเป็นประธานก่อตั้งผมก็มักชอบที่จะยืนอยู่ข้างๆให้เกียรติแก่แขกหรือวิทยากรของเราอยู่กลางเป็นสำคัญแต่เรามักสังเกตว่าผู้เป็นประธานก็มักชอบอยู่กลางอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลแต่สำหรับผมการให้เกียรติคนอื่นสำคัญกว่าการวางฟอร์มของผมเอง
ในค่ำวันอังคารที่ 8 มกราคม 2562 ผมไปงานสวดอภิธรรมศพของคุณพ่อของเพื่อนร่วมงานของพวกเราท่านหนึ่งผมในฐานะประธานก็ออกไปจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยและแสดงความเคารพต่อผู้วายชนม์แต่เมื่อถึงเวลาถวายสังฆทานศรีภริยาและผมก็มอบหมายให้ท่านผู้บริหารอื่นในบริษัทออกไปถวายแทนไม่ใช่ว่าผมในฐานะเจ้าภาพต้องทำเองหมดควรแบ่งๆเกียรติแก่ผู้อื่นบ้างแม้แต่เวลามอบเงินช่วยเหลือในนามของบริษัท ผมก็มอบหมายให้กรรมการผู้จัดการของผมออกหน้าแทนซึ่งน่าจะเป็นการเหมาะสมกว่าให้ผมในฐานะประธานดำเนินการคนเดียว
อันที่จริงปกติผมก็มักให้เกียรติผู้อื่นอยู่แล้ว เช่น พบหน้าเพื่อนร่วมงานคราวลูกหลาน ก็มักจะยกมือไหว้กล่าวคำสวัสดีโดยไม่ต้องรอให้เด็ก ๆ มาสวัสดีเราก่อน เพราะถือเป็นการทักทายเอาใจใส่เพื่อนร่วมงานนั่นเอง ผมก็ไม่เคยสวมวิญญาณพวกที่มี "หัวโขน" นึกว่าตนเองมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่คอยเชิดให้คนอื่นไหว้อยู่เป็นประจำ เพราะนั่นถือเป็นกิเลสอย่างหนาและอย่างหยาบประการหนึ่ง
ผมเชื่อว่ายิ่งเราให้เกียรติคนอื่น เรายิ่งได้รับเกียรติตอบแทน โดยไม่ต้องไปใฝ่หา