สานสัมพันธ์ธุรกิจหรือการสร้างคอนเน็คชั่นนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ไม่ใช่การเลีย หรือไม่ใช่การขายวิญญาณเพื่อแลกมาซึ่งความสำเร็จ
ในแวดวงธุรกิจ เราต้องรู้จักผู้คนให้มากเพื่อจะได้มีฐานลูกค้ากว้างขึ้น ผมเองก็เล็งเห็นความสำคัญข้อนี้เหมือนกัน แต่จะเที่ยวไปสร้างคอนเน็คชั่นด้วยการเลีย สอพลอ หรือเสนอหน้าเพื่อเอาดีใส่ตัว ผมในฐานะที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมา ผมเห็นว่าไม่จำเป็น ทำไปก็ทำให้ตัวเองแปดเปื้อนเปล่าๆ เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตัวเองไปอีกต่างหาก
หลายคนบอกว่า เราควรพาลูกค้าหรือลูกน้องไปเลี้ยง ไปดื่มแอลกอฮอล์ จะได้เจรจาธุรกิจต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ราบรื่นขึ้น บ้างก็พาลูกค้าไปตีกอล์ฟถึง "หลุม 19" อันนี้คงเป็นธุรกิจสีเทา หรือไม่ก็เป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยการแข่งขัน ติดสินบนกัน จึงต้องลงทุนถึงปานนี้ ทำไปก็เสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อีกต่างหาก
เราคงเคยได้ยินข่าวร่ำลือบ้างว่า ข้าราชการบางคน อาจต้องเอาตัวเข้าแลก เอาอกเอาใจผู้บังคับบัญชาอย่างหนักเพื่อให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โต กว่าจะได้มาซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีจากหัวโขน ก็แลกมาด้วยการขายศักดิ์ศรึความเป็นคนไปอย่างน่าอดสู แต่บางท่านก็ยอม เพียงเพื่อให้ได้เกียรติศักดิ์ศรีจอมปลอม ว่าครั้งหนึ่งเคยมีตำแหน่งใหญ่โต เป็นต้น
ในการทำธุรกิจของผมนั้น ผมก็รู้จักผู้คนมากมาย หลายคนมองว่าผมมี "บารมี" มีเครือข่ายคนรู้จักมากมาย เวลาเชิญใครมาร่วมงาน ก็มีคนมากันไม่ขาดสาย อย่างเช่นผมจัดคณะผู้เยี่ยมยุทธ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์มาร่วมกันออกข้อสอบให้กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อใช้ในการสอบนายหน้า ผู้บริหารทรัพย์สิน และสาขาวิชาชีพอื่นอีกนับสิบสาขา ก็มีผู้เยี่ยมยุทธ์เหล่านี้ยินดีมาร่วมด้วย นักพัฒนาที่ดิน นักลงทุนหรือนายหน้าจากต่างประเทศ ก็มักสนใจติดต่อธุรกิจผ่านผม เพราะเห็นว่าผมมีคอนเน็คชั่นมากในประเทศไทยของเรา
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแบ่งปันก็คือ ความสัมพันธ์ของผมกับลูกค้ารายใหญ่ๆ ทั้งหลายนั้น ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย ไม่เคยไปคลุกคลีตีโมง จุดไฟแช็ค เช้าถึงเย็นถึงกับลูกค้า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือนายแบงค์ใหญ่ๆ แต่อย่างใด ผมก็ให้ความสัมพันธ์ในฐานะลูกค้าผู้มีอุปการะคุณ เป็นนายจ้างที่จ้างผมทำงานต่างๆ นานาเท่านั้น ไม่มีอะไรเกินเลย แต่ท่านก็เมตตาให้งานผมทำต่อเนื่องเพราะผลงานที่ทำได้ดี จึงมีการใช้บริการซ้ำ การกระทำประเภทผลประโยชน์ต่างตอบแทน ทุ่มให้กันเพื่อหวังจะได้ลาภในภายหน้า แบบนี้ผมทำไม่ลง ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางใจก็ว่าได้
ผมออกเงิน 200,000 บาท ตั้งมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ก็เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ พอเขาเห็นเราทำดี เขามาร่วมกิจกรรมต่างๆ คนเหล่านั้นก็อาจกลายมาเป็นลูกค้าในภายหลังได้ อาจมาเรียนวิชาชีพด้านประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ นายหน้า พัฒนาที่ดิน ลงทุนหรืออื่นใดในเวลาต่อมา หรืออาจมาใช้บริการสำรวจวิจัยอสังหาริมทรัพย์ในภายหลังนั่นเอง
อย่าสร้างคอนเน็คชั่นจอมปลอม อย่าแลกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์กับเกียรติยศ-ลาภยศสักการะที่จอมปลอมและไม่สง่างามเลย
ที่มาของภาพ: www.mechanictomillionaire.com/wp-content/uploads/2016/05/Epi-204-M2M.jpg